4 พฤติกรรม ขวางกั้นความรวย
“ความรวย” เป็นอะไรที่หลาย ๆ คนอย ากได้กันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่ได้สัมผัส? นั่นเ พ ร า ะพฤติกรรมที่จะนำพาเราไป
สู่ความรวยนั้นพูดตรง ๆ ก็คือไม่ง่าย ต้องใช้ความพย าย าม ความอดทน และความกล้าระดับหนึ่ง ถ้าความรวยเป็นสิ่งที่จะ
เปลี่ยนชีวิตเรา เราก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเองก่อน
วันก่อน เราไปอ่านเจอบทความหนึ่งน่าสนใจของคุณ David Rae บน Forbes ซึ่งเขาสรุปมาให้ว่ามีพฤติกรรมไหนบ้าง
ถ้าเรายังทำอยู่ รับรองว่าไม่มีทางรวยแน่ ! มา เดี๋ยวจะมาสรุปให้อ่านกัน ขอหยิบมา 4 ข้อก่อนละกันนะ
พฤติกรรมที่ 1: กลัวการลงทุน
เป็นเรื่องย ากสำหรับคนทำงานทั่ว ๆ ไปที่จะร่ำรวยโดยไม่แบ่งเงินไปลงทุนในอะไรสักอย่ างเลย คือเข้าใจแหละว่าหลายคน
อาจจะรู้สึกว่าเก็บเงินไว้กับตัวอะปลอดภัยกว่า ไม่ ท บ ทุ นแน่นอน แต่อย่ าลืมว่าทุก ๆ ปีเราเจอเงินเฟ้อที่ทบขึ้นเรื่อย ๆ เงิน
40 บาทในวันนี้ อาจไม่เพียงพอที่จะซื้อข้าวแกงมื้อหนึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้าแล้ว อำนาจการจับจ่ายใช้สอยของเราจะลดลง
แต่เราจะโดนภาพลวงตาหลอกว่าเรายังมีเงินเท่าเดิมเ พ ร า ะ “ตัวเลขในบัญชี” หรือ “ธนบัตรในมือ” ยังมีปริมาณเท่าเดิม
ถ้าอย ากจะเอาชนะเงินเฟ้อ เราก็ต้องพึ่งพา “อัตราดอกเบี้ยทบต้น” จากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไรก็ตาม จะหุ้น
ตราสารหนี้ กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารอย่ างเดียว ถึง
ตรงนี้ หลายคนเริ่มบ่นอุบแล้วว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง” ใช่ เรายอมรับว่ามีความเสี่ยง แต่เราว่าสิ่งที่เสี่ยงกว่าคือการ
ไม่ลงทุนในอะไรเลย เ พ ร า ะถ้าเงินไม่งอกเงยในอัตราที่เร็วกว่าเงินเฟ้อ หรืออัตราการจับจ่ายใช้สอยของเรา ลอง
คิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น? เงินหมดไงล่ะคะ
พฤติกรรมที่ 2: ใช้ชีวิตเกินตัว
ปัจจุบันมีสิ่งล่อตาล่อใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของคูลๆ หรือไลฟ์สไตล์โก้ๆ ของดาราเป็นเรื่องปรกติที่คนธรรมดาสามัญชน
จะอย ากครอบครองชีวิตดี ๆ แบบนั้นบ้าง หากเรามีเงินระดับหนึ่ง ถ้าอย ากได้กระเป๋าแบรนด์เนมใบใหม่… อย ากได้รถคันหรู
อย ากได้บ้านสวย ๆ ทำยังไงดี? ก็เป็นไปได้ที่คนบางคนจะกด “ซื้อโลด!” แต่เดี๋ยวก่อน จริง ๆ แล้วเรามีเงินมากพอที่จะซื้อ
ชีวิตแบบนี้จริง ๆ เหรอ? บางคนอาจจะบอกว่า ก็ไม่เกินจำนวนเงินที่มี ใช้ไปสิ เรื่องนี้จะเป็นปัญหาเมื่อเงินก้อนนั้นเป็นเงิน
ทั้งหมดที่เรามี และยังไม่ได้ถูกแบ่งไปเก็บออมหรือลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น หลาย ๆ คน “ตั้งงบตรงขอบเหว” คือถ้าใช้ถึงงบนี่
แปลว่าเกลี้ยงจริง ๆ บางคนใช้เงินแบบเดือนชนเดือน บางคนโชคไม่ดีเจอหนี้บัตรเครดิตอีก
อย่ างดีสุดที่เราจะได้จากสถานการณ์นี้คือความมั่งคั่งของเราไม่เติบโตขึ้นเลย อย่ างแย่สุดคือเงินหมด ติดหนี้ หรืออาจจะ
ต้องทำงานตลอดไป พักไม่ได้ เป็นไงฟังแล้วเครียดชะมัด
ฉะนั้น เราควรหันหน้าเข้าหาความจริงว่าสถานะการเงินของเราตอนนี้ มันโอเคไหมกับการซื้อของแพง ๆ มันจะทำให้เราต้อง
กินแกลบรึเปล่า เราจะต้องติดหนี้แล้วจ่ายไม่ไหวไหม อะไรที่เกินตัวไปก็อย่ าไปฝืน อย่ าไปถือคติ “Fake It Till You
Make It” กับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ทางที่ดีคืออยู่อย่ างพอเพียง ไม่อัตคัตขัดสนเกินไป แต่ก็พอใจกับสิ่งที่มีอยู่
พฤติกรรมที่ 3: สร้างหนี้ท่วมหัว
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว การใช้เงินเกินตัวก็ทำให้เราเป็นหนี้ได้ และถ้าเป็นหนี้เยอะ ๆ ทีนี้ลำบากมากเ พ ร า ะเงินที่ได้มาก็ต้อง
ไปจ่ายหนี้ก่อน ก่อนจะสามารถนำไปลงทุนต่อยอดหรือเก็บออมเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ได้
ถึงอย่ างนั้น ไม่ใช่ทุกหนี้ที่ส่งผลเสียเสมอไป เ พ ร า ะหนี้ที่เกิดจากการกู้เงินไปซื้อบ้าน หรือเพื่อการศึกษานั้น เป็นหนี้ที่จะ
สร้างผลดีให้เราในอนาคตหากเรามีกำลังจ่ายหนี้ที่ควรระวังก็จะเป็นพกหนี้บัตรเครดิตที่เกิดจากการรูดๆแบบลืมคิดของเรา
นั่นแหละ เจอดอกเบี้ยเข้าไปทีก็ไม่มีเงินเก็บแล้ว ดังนั้น จัดการบัตรเครดิตให้ดี อย่ าใช้เพลินจนเกินตัวนะคะ
พฤติกรรมที่ 4: มองข้ามรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ไม่ว่าจะ 200 บาทหรือ 1,000 บาท หากมากขึ้นเรื่อย ๆ มันก็จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ที่เราเผลอจ่ายออกไปโดยที่ไม่คิดว่า
มันจะกระทบอะไรกับเรา เคยไหมที่ซื้อนิตยสารแบบเล่มต่อเล่ม ทั้งที่จริง ๆ ถ้าอ่านเป็นประจำก็น่าจะสมัครสมาชิกไปเลย
เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า แต่เราก็ลืมนึกไป หรือเราอาจจะเคยจ่ายน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเวลาเดินทางด้วยเครื่องบินแต่จริงๆ
แล้วเราสามารถแบกส่วนเกินนั้นขึ้นเครื่องบินกับเราได้
เป็นไงบ้างคะ มีพฤติกรรมไหนที่เพื่อน ๆ ยังทำกันอยู่ไหม? ถ้ายังมีอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลไป เราสามารถค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมตัวเองได้ เป็นการดีที่แล้วเรารู้ตัวแล้วรีบแก้ไข ดีกว่าการคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่มีปัญหาอะไร กว่าจะรู้ตัวอีกที
มันก็บานปลายแล้ว ฉะนั้น ถ้ารู้ตัวว่าอันไหนสามารถแก้ได้ก่อน แก้ได้เร็ว ก็อย่ ารีรอ ลงมือเลยจ้า แล้วหนทางสู่ความ
ร่ำรวย ก็จะใกล้ขึ้นอีกก้าวแล้วละ!