ทัศนคติที่ดีนั้นเป็นแรงสำคัญ เป็นตัวกำหนดแนวคิดในการดำเนินชีวิต

หลายคนอาจเคยผิดหวังกับ ความรัก มานับครั้งไม่ถ้วน จนกลายเป็น “ผู้ไม่มีโชคทางด้านความสัมพันธ์” แต่ในทางกลับกันเราเคย

ย้อนถามตัวเองบ้างมั้ยคะว่า เพ ราะอะไร เหตุใด หรือว่าทำไม เราจึงต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ? งั้นมา

ลองตั้งคำถามเล่นๆ ดูกันหน่อยดีกว่า

คุณมีทัศนคติต่อความรักเป็นอย่ างไร

ทัศนคติถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ เพ ราะมันคือตัวกำหนดวิธีการคิดและการใช้ชีวิตของเรา บางคนบอกว่าความรักคือทุกอย่ าง

แต่พอสูญเสียไปก็เหมือนกับสูญเสียตัวตนของตัวเองไปด้วย ทำให้ต้องวิ่งตามหาความรักครั้งใหม่ต่อไปเรื่อยๆ หรือบางคนโหยหา

ความสัมพันธ์ที่มันไกลเกินเอื้อมมาก และการตั้งสเปคเอาไว้สูงๆ จนส่งผลให้ยังไม่เจอกับคนที่คลิกและใช่จริงๆ สักทีเพ ราะฉะนั้น

การย้อนถามตัวเองดูว่าทัศนคติของเราที่มีต่อความรักเป็นยังไง จึงจะช่วยทำให้เราเข้าใจและปรับเปลี่ยนตัวเองให้พอเหมาะพอดี

กับความรักที่ตามหาอยู่นั่นเอง

คุณเจ้ากี้เจ้าการกับความสัมพันธ์เกินไปรึเปล่า

ถ้าได้ลองถามใครหลายคนว่าต้องการอะไรจากความสัมพันธ์กันแน่ ? พวกเค้าเหล่านั้นคงตอบว่า “ความสบายใจ” ซึ่งก็ถือเป็น

เรื่องจริงค่ะ เพ ราะความรักที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าหาก คนทั้งคู่ ไม่เคยมอบความสบายใจให้กัน หรือมีเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

เท่านั้นที่ทำการไม่เจ้ากี้เจ้าการหรือยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางจึงนับว่ามีส่วนช่วยทำให้ความรักเดินหน้าต่อไปได้อย่ างราบรื่น

แตกต่างจากคู่รักที่ไม่เคยเว้นช่องว่างระหว่างกัน หรือให้เกียรติอีกฝ่ายได้ตัดสินใจอะไรเองบ้าง อาจส่งผลให้ความสัมพันธ์

เปราะบางและจบลงง่ายดายโดยไม่ทันคาดคิด

คุณดูแลตัวเองและรักตัวเองมากพอหรือยัง

ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้ารักใครอย่ างเต็มกำลัง จงตั้งคำถามดูหน่อยซิว่า เรารักตัวเองและดูแลตัวเองดีพอหรือยัง ? เพ ราะมันคง

ไม่โอเคแน่ๆ ค่ะ ถ้าหากเราจะเข้าไปเป็นภาระในชีวิตคนอื่น โดยการให้อีกฝ่ายดูแลและเทคแคร์อยู่ฝั่งเดียว ซึ่งการรักตัวเอง

ให้มากพอ อย่ างน้อยๆ ข้อดีของมัน ก็สามารถทำให้เรามั่นใจได้ว่า ถ้าหากต้องล้มเหลวกับความรักอีกครั้ง เราจะยืนอยู่เพียง

ลำพังได้ โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ดังนั้น อย่ าให้ใครมาเป็นโลกทั้งใบของเรา เพ ราะถ้าหากโลกพัง เราก็อาจจะแตกสลายไป

ด้วย จงมีจุดยืนที่มั่นคงโดยการรักตัวเองให้มาก เมื่อถึงวันนั้นความรักดีๆ ก็จะวิ่งเข้ามาหาเราเองค่ะ