1 : นับหนึ่งให้ถึงสิบ
เริ่มจากวิธีพื้นฐาน อย่ างนับเลขในใจ เวลาที่เราโ ก ร ธใครให้ลองนับหนึ่งถึงสิบ หรือจะนับถึงร้อยถึงพันก็คงไม่มีใครว่า
เ พ ร า ะการนับเลขจะส่งผลให้เรามีสมาธิ และยังได้มีเวลาไตร่ตรองคิดถึงสิ่งที่ผู้อื่นทำกับเรา และสิ่งที่เรากำลังคิด
จะทำด้วย
2 : เดินอย่ างมีสติ
เดินไปข้างหน้า ด้วยความรู้สึกขอบคุณ ทุกสิ่งทุกอย่ าง ขอบคุณร่างกายที่ยังมีกำลังมากพอให้สามารถเดินได้ ขอบคุณ
ถนนหนทางที่สะดวกสบายมากพอจนเดินก้าวไปได้ และเดินด้วยใจกรุณาด้วยความรู้สึกว่า “อย ากสร้าง แต่รอยยิ้มอัน
งดงาม ให้กับโลกใบนี้”
3 : ทำงาน อย่ างมีสติ
ท่ามกลางมรสุมงานและการติดต่อผู้คนมากมายตลอดวันเราก็สามารถฝึกสติรู้เนื้อรู้ตัวได้ง่ายๆ เพียงหลับตาลงหายใจเข้าและ
ออกลึกๆ สัก5 รอบลมหายใจ โดยให้สติตามลมหายใจโดยไม่คิดเรื่องอื่น แล้วค่อยกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้า ใหม่อีกครั้ง
4 : สนทนาอย่ างมีสติ
ฟั ง อย่ างตั้งใจ ฟังโดยไม่คิดตัดสินคู่สนทนา เปลี่ยนสภาพตัวเองให้เป็นเหมือนภาชนะว่างเปล่าที่พร้อมรับฟังบุคคลตรงหน้า
ขณะที่เมื่อพูดก็ตระหนักถึงความงดงามของความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคู่สนทนาสื่อสารด้วยความรักด้วยความหวังดีด้วยใจ
ที่อย ากจะสร้างสรรค์ความหมายดีๆ ระหว่างกัน
5 : ตื่นอย่ าง มีสติ
แทนที่ จะตื่นมาแล้วเช็คข่าวสารจากโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งแรกของวัน ให้เวลาตัวเองซัก 5-10 นาที นั่งสมาธินิ่งๆ ก่อนจะ
รับข่าวสารอื่นๆ เพื่อช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่เป็นไปอย่ างมั่นคง ในอารมณ์
6 : กินอย่ างมีสติ
บางครั้งเรา ก็ทานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย บางครั้งก็ทานไปด้วย ดูจอทีวี จอมือถือไปด้วย แล้วครั้งสุดท้ายที่ทาน
อาหารทีละคำรับรสชาติแล้วขอบคุณอาหารในมื้อนั้น คือเมื่อไหร่กันหรือแนะถ้าหากทำ 5 ข้อแล้วยังไม่เห็นผลเท่าที่
ควร ให้ลองทำตั้งแต่ข้อที่ 6 ขึ้นไป
7 : เข้าหูซ้าย ทะลุ หูขวา
อย่ าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ เ พ ร า ะปกติแล้ว คำว่า “ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา” นั้นเขาใช้เปรียบเปรยคนที่ฟังอะไรแล้วไม่สนใจ
ไม่ใส่ใจ ไม่รับความคิดใหม่ๆ เข้ามา แต่ตอนนี้ผมกำลังหมายถึง ถ้าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว การฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุ
หูขวานั้นนับเป็นเรื่องที่ดี เ พ ร า ะจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ใครกล่าว มา
8 : คิดมากไป หรือ เปล่า
อาการคิดมาก เป็นส่วนหนึ่งที่ ทำให้เกิดโรคเครียดได้ ยิ่งอากาศร้อนๆ ยิ่งเหตุการณ์อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจด้วยแล้ว ยิ่งทำให้
ร้อนรน เมื่อเกิดเรื่องก็จะยิ่งเก็บมาคิด จนไม่เป็นอันกินอันนอน ลองเปลี่ยนจากความคิดเรื่องแย่ ๆ เปลี่ยนเป็นคิดเรื่องดีๆ
บ้างสิครับ เ พ ร า ะความคิดนั้นเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของเรา ไม่เชื่อลองทำดู คิดดี ทำดี เท่านี้พอ
9 : ปล่อยวาง ไม่ยึดติด
ปัญหา ที่เกิดขึ้นนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเ พ ร า ะคนเรามีอัตตามากเกินไป หากเรา ลองเปลี่ยนความคิด ไม่ยึดติดกับตัวตน
แล้วลองคิดว่าสุดท้ายวันหนึ่งเราก็ต้องแ ต กดับ และสลายไป วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป เ พ ร า ะฉะนั้นถ้าเรายอมรับ
กับวัฏจักรแห่งการเกิด-ดับนี้แล้ว ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็คงเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
10 : ฝึกสมาธิ
การฝึกสมาธิ ให้ใจสงบนั้นมีหลายรูปแบบ จะนั่งสมาธิหรือเดินสมาธิก็ได้ อย่ างที่ผมเคยเขียนในเล่มก่อนๆ ว่าเมื่อมีสมาธิ
ก็มีสติ เมื่อมีสติก็เกิดปัญญา เวลาเกิดปัญหาก็จะ มีทางแก้ไข
11 : รู้เขารู้เรา
บางครั้งแค่เราลองมองใส่ใจ นิสัยของคนรอบข้างบ้าง ก็สามารถที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่ างไม่ย ากเย็นแต่
เราจะต้องรู้จักระงับสติอารมณ์ของเราด้วย เ พ ร า ะเมื่อเราทราบแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้ หากเรารับนิสัยเขาไม่ได้ ก็ให้
อยู่ห่างๆ เข้าไว้เป็นดีที่สุด จะได้ไม่ต้อง มีเรื่องมีราวกัน
12 : หายใจเข้า และออกลึกๆ
การหายใจ เข้าออกลึกๆ นานๆ จะทำให้เราได้มีสติยั้งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทำให้ร่างกายเราได้รับการผ่อนคลาย
จากลมหายใจที่รับเข้าและส่งออก ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปในช่วงเวลาที่มีอารมณ์โกรธ ลองหายใจลึกๆ
เข้า ออก อย่ างช้าๆ จะช่วยให้สถานการณ์รอบข้างดีขึ้น
13 : ไม่หนีแต่ไม่ปะ ทะ
หากเราไม่สามารถ จะทำอะไรกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ แต่จะเก็บเอาไว้ก็กลัวจะกลายเป็นคนเก็บกดจะเดินหนี
ก็จะกลายเป็นคนไม่ยอมรับความจริง หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คงต้องใช้สติที่รอบคอบตัดสินใจในการแก้ปัญหารับฟัง
สิ่งที่ผู้อื่นว่ามา แล้วก็นำไปปรับปรุงในส่วนที่ไม่ดีหากแต่เป็นสิ่งที่เขาพูดพร่ำเพรื่อก็ไม่ต้องกังวลให้เสียเวลา เลิกคิด
ไปเลย ไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำด้วย เ พ ร า ะการทำเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลดีอะไรขึ้นมาเลย
14 : ขอโทษ
หากเราทำผิด การใช้คำว่าขอโทษนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด ไม่ใช่เรื่องย ากเลย ถ้าเราจะต้องเอ่ยคำขอโทษ เ พ ร า ะคำๆ
นี้ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของเราตกต่ำลง หากแต่เป็นการรู้จักยอมรับในสิ่งที่ตนเองผิ ดต่างหาก อีกทั้งยังจะทำให้สถานการณ์ที่
เลวลง คลี่คลายลงได้ อย่ างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้คำขอโทษอย่ างพร่ำเพรื่อ เ พ ร า ะจะทำให้ติดเป็นนิสัยที่ไม่ดี ทำอะไร
ก็ไม่ระมัดระวัง
15 : ยิ้มแห่ง สย าม
รอยยิ้มสร้างโลกนี้ให้สดใสได้ เหมือนดังคำที่บอกว่า “ถ้าคุณยิ้ม โลกก็จะยิ้มให้คุณ” เพียงแค่คุณไปไหนแล้วมีแต่รอยยิ้ม
ให้คนรอบข้าง คนรอบข้างก็จะอารมณ์ดีขึ้นไปด้วย