ความสุขที่สุด คือความสบายใจ มีความสุขอยู่กับตนเองได้ ไม่รอคอย ความสุขจากคนอื่น ไม่จมปลัก อยู่กับวันเก่าสดชื่น
ตื่นเต็มกับทุกรุ่งอรุณ สบายใจ กับตัวตนที่เปิดเผย รักตัวเองในทางที่ถูก ก็คือไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเอง ทั้งปัจจุบัน
และภายภาคหน้า
ทำอะไรก็แล้วแต่ หากลงท้ายเราได้ความสบายใจ ตรงนั้นเรามาถูกทาง
ค้นคว้าเอาความจริง แล้วจะรู้ว่าคนมีความสุข คือคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนอื่นใช้ชีวิตไปถึง ‘ฐานความมั่นคง
ทางอารมณ์’ ไม่รอให้คนอื่นตีค่า แต่อย ากเป็นฝ่ายให้ค่ากับคนอื่นทานที่ทรงพลัง ตั้งต้นด้วยความอย ากช่วย ไม่ว่าจะเห็น
เขาเดือดร้อนน้อยหรือมาก ต่อยอดด้วยการลงมือช่วยเต็มที่ด้วยการสละสิ่งที่ตนมี ที่พอสละได้ไม่ลำบาก ลงเอยด้วยการดีใจ
ปลาบปลื้มกับการช่วยได้ หรืออย่ างน้อยได้ช่วยใจสละเศษเงินเป็นทรัพยทานได้ ก็สละความพย าบาทเป็นอภัยทานง่ายขึ้น
ยิ่งทำจนชิน ยิ่งสำเร็จจนชำนาญ ภาวะแห่งทานยิ่ง ‘ตั้งมั่นอยู่ในจิต’ กระทั่งจิต กลายเป็นมหาทาน มีความแผ่ออก มีความสุข
สดชื่น มีความสบายอกสบายใจ ทั้งที่อยู่เฉย ๆ แท้ ๆ
ช่วยคนอื่น แล้วตัวเองจะรอด
ทำเพื่อคนอื่นอย่ างหมดใจ คือทำเพื่อตนเองอย่ างแท้จริง อย่ างน้อยที่สุด มันก็ทำให้คุณขึ้นจากหล่ม ของการอย ากงอมือ
งอเท้ากับทั้งไม่หาที่พึ่งอื่น รู้สึกว่าตนเท่านั้นเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ และไม่นึกอย ากเบียดเบียนใครด้วยประการใด ๆ อีกแล้ว
ผลแห่งทานที่ทรงพลัง คือความสามารถทางจิตที่จะปลดเปลื้องตนเอง จากพันธนาการร้อยรัดนานา ของหาย…ก็สละได้
เลิกอาลัยได้ โกรธแค้น…ก็ยอมได้ วางไว้ตรงนั้นได้ ยึดมั่น…ก็ปล่อยได้ คลายได้ รักษาศีล…ก็ทิ้งบาปได้ ห้ามใจได้
เจริญสติ…ก็เห็นตามจริงได้ รู้ว่าอะไร ๆ ไม่ใช่ตัวเดิมได้ รู้ว่ากายใจ ไม่ใช่ของเราได้
ช่วยให้คนอื่นเป็นสุข สุดท้ายคือ ช่วยให้ตัวเองพ้นทุกข์นั่นเอง