
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่เราต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆ ทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกที่ไม่พึงประสงค์ที่ทุก
อย่ าง เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องมีวิธีรับมือที่จะสามารถทำให้มันผ่านไปได้บทความนี้จะเสนอรูปแบบการรับมือกับความรู้สึกเฟล
ในมุมมองต่างๆ ตั้งแต่เรื่องความรัก เรื่องเพื่อน เรื่องการงาน หรือแม้แต่เรื่องของตัวเอง สามารถเลือกหัวข้อให้เหมาะกับ
สถานการณ์ของแต่ละคนได้เลยครับ
5 วิธีรับมือ เวลารู้สึกเฟลกับความรัก
หลายคนที่ผิดหวังในความรัก ไม่ว่าจะโดนปฏิเสธ หรือเลิกรากันไปแล้วก็ตาม แต่ยังคงคิดเข้าข้างตัวเองหรือยังมีความรู้สึกเก่าๆ
ที่แอบหวังว่าความรักจะสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วอีกฝ่ายไม่ได้มีความสนใจ หรืออาจจะตัดใจไป
นานแล้วก็ได้
1 : การเบนความสนใจของตัวเอง
คุณมีสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขรึเปล่า? ไม่ว่าจะเป็นการดูสื่อเพื่อความบันเทิง อย่ างการฟังเพลง ดูหนังที่ชอบ หางานอดิเรกทำหรือ
อาจจะหันมาโฟกัสที่สุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เล่นกีฬาที่ถนัดให้ทำสิ่งที่ตั้งใจอย ากจะลองทำมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มี
โอกาสได้เริ่ม เวลานี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ไม่ควรจะอยู่เฉยๆ และปล่อยให้ความรู้สึกที่ยังคิดถึงคนๆ นั้นมา
รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เ พ ร า ะมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น ควรหาสิ่งที่ชอบ และทำแล้วมีความสุข
เพื่อไม่ให้ปล่อยเวลาอันมีค่าผ่านไปพร้อมกับความทุกข์ที่เราไม่จำเป็นต้องแบกรับเอาไว้
2 : การยอมรับความจริง
การยอมรับความจริงว่า เรื่องระหว่างเรากับเขานั้นได้จบไปแล้ว โดยไม่ต้องไปตั้งความหวังเขาจะกลับมาหาเรา หรือเรื่องราวจะ
กลับมาดีเหมือนเดิม หรือคาดหวังว่าวันข้างหน้าเราอาจจะได้กลับมาเริ่มต้นเรื่องราวรักครั้งใหม่กันอีกครั้ง และให้ตัดความหวัง
ลมๆ แล้งๆ นั้นทิ้งไปเลยอย่ าปล่อยให้ตัวเองนั้นหลงใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความฝันที่สร้างขึ้นมานะเ พ ร า ะการหลอกตัวเอง
ไม่ยอมรับความจริงนั้นไม่ได้ช่วยทำให้ทุกอย่ างกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ดังนั้นคุณควรจะตื่นจากโลกแห่งความฝันเพื่อเผชิญ
หน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงถึงแม้ว่าความจริงจะแสนเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน แต่มันจะทำให้เราไม่ต้องจมปลักกับ
ความรู้สึกแย่ๆ ของความสัมพันธ์ที่จบไปแล้วแบบนี้ และอีกไม่นานความรู้สึกของเราก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ เอง ยิ่งยอมรับความ
จริงได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งกลับลุกขึ้นมาได้เร็วเท่านั้น และสามารถที่จะเปิดรับผู้คนใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตได้เร็วขึ้น
3 : การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนๆ ที่รักคุณ
เวลาที่คนเราผิดหวังในความรัก หลายคนอาจจะสร้างกำแพงที่ปิดกั้นตัวเองจากคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว จนลืมไปรึเปล่าว่า คุณยังมี
ทั้งครอบครัวที่รักคุณ และยังมีเพื่อนฝูงที่พร้อมจะช่วยเหลือและเป็นแรงสนับสนุนให้สามารถเผชิญกับเรื่องที่คุณประสบอยู่ใน
สถานการณ์อันย ากลำบากนี้ได้ ดังนั้นคุณก็ควรที่จะกลับไปหาพวกเขา เล่าเรื่องให้พวกเขาฟัง ระบายความรู้สึกออกมา ซึ่ง
คนที่รักคุณก็จะพร้อมรับฟังคุณเสมอใครกันที่คอยอยู่กับคุณในเวลาที่คุณทุกข์ ใจ หรือมีปัญหา?จงชดใช้เวลาที่เสียไป โดย
การอยู่กับคนเหล่านี้ และให้ความสำคัญกับพวกเขามากๆ และในขณะเดียวกันก็จะทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึง ความซาบซึ้งของ
คุณที่มีพวกเขาอยู่เคียงข้างเช่นกัน
4 : การรักตัวเองเป็นอีกครั้ง
หลายคนก็อาจเคยโทษตัวเองว่า ตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักในครั้งนี้พังทลายลง หรืออาจจะคิดว่าถ้าตัวเองนั้นสวยกว่านี้
เก่งกว่านี้ ดีกว่านี้ ความสัมพันธ์ของเราก็คงจะไม่จบลงแบบนี้ หรือคิดว่าตัวเองถ้าหล่อกว่า ฉลาดกว่านี้ ฝ่ายนั้นก็คงจะกลับมา
หาคุณ ซึ่งมันเป็นการทำไม่ดีกับตัวเองแบบไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่คุณไม่จำเป็นจะต้องรับผิดชอบในส่วนนั้นเลยถ้าอีกฝ่ายไม่ได้รักใน
ตัวตนที่แท้จริงของคุณ ต่อให้คุณจะพย าย ามจะเป็นคนอื่น เพื่อให้เขามารักคุณ แล้วความสัมพันธ์แบบนี้จะอยู่ไปได้นานสักแค่
ไหนกัน มันเป็นวิธีที่ดูไม่เข้าท่าเลย คุณต้องการให้คนๆ หนึ่งมารักคุณ จนคุณยอมกลายเป็นคนอื่นไปเลยหรือ และหากคุณทำ
สำเร็จ แต่เขาก็ไปเจอคนที่ดีกว่าคุณอีกล่ะ คุณจะทำอย่ างไร จะต้องกลายเป็นคนอื่นที่เขามองว่า ‘ดีกว่า’ อีกอย่ างนั้นหรือ
5 : การไม่ยึดติดกับอดีต
บางครั้งคนเรามักจะยืดติดกับความผิดพลาดในอดีต ความสัมพันธ์เก่าๆ กังวลมากเกินไป จนทำให้กลัวว่า ตนเองจะต้องผิดหวัง
และเจอกับความเจ็บปวดแบบนั้นอีก จึงเกิดการปิดใจไปโดยไม่รู้ตัว และทำให้โอกาสที่จะได้พบกับสิ่งดีๆ ก็ปิดไปด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ไม่ว่าความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้จะลงเอยอย่ างไรก็ตาม เราก็ควรที่จะให้โอกาสตัวเองได้พบเจอกับรักครั้งใหม่เสมอ อย่ า
ไปกลัวว่า จะล้มเหลวเหมือนครั้งก่อนๆ เ พ ร า ะเราไม่มีทางรู้เลยว่ารักครั้งนี้ ในท้ายที่สุดแล้วจะเป็นอย่ างไร เ พ ร า ะฉะนั้นอย่ า
เอาความผิดพลาดในอดีตมาปิดกั้นโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตเลย ให้ถือว่าเป็นโอกาสดีๆ ให้เราได้ลองแก้ตัวใหม่กับความรักในครั้งนี้
5 วิธีรับมือ เวลารู้สึกเฟลกับเพื่อน
การที่คุณจะรู้สึกผิดหวังกับเพื่อนสักคนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แปลกเลย และการที่คุณสามารถเป็นเพื่อนกันได้ เ พ ร า ะรู้สึกว่าคุยกัน
ได้ในบางเรื่อง หรือหลายๆ เรื่องก็ไม่แปลก เป็นธรรมดาของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ที่เมื่อเรามีคนรู้จักที่คุยกันรู้เรื่อง สนใจ
อะไรเหมือนๆ กัน มีความคิดคล้ายๆ กัน เราก็จะตัดสินว่าคนๆ นั้นเป็นเพื่อนของเราไปเองโดยอัตโนมัติ แต่การเป็นเพื่อนกันก็
ค่อนข้างลึกซึ้งไปกว่านั้นหลายครั้งที่มีคนใช้คำว่า ‘ เพื่อน ’ ในการเรียกร้องหรือคาดหวังบางอย่ างจากคนรู้จักรอบข้าง โดยหวัง
ว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร เ พ ร า ะเราเป็นเพื่อนกัน
1 : ตรวจสอบจุดยืนของตนเอง
เราอาจจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อน กลับกันฝ่ายตรงข้ามอาจจะยังไม่ได้ยอมรับเราเป็นเพื่อนก็ได้ และการที่เรากระทำบางอย่ างให้
หรือการคาดหวังบางอย่ างจากคนที่คิดว่าเป็นเพื่อน มันก็อาจจะได้ผลลัพธ์คนละแบบกับที่คาดหวังเอาไว้ ดังนั้น ก็ควรตรวจ
สอบสถานะกับจุดยืนก็ตัวเองให้แน่ใจก่อน
2 : ทำความเข้าใจ และยอมรับ
แม้ว่าจะเพื่อนกันแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าต่างฝ่ายจะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง ไม่ว่าจะสนิทกันแค่ไหนก็ตาม อย่ างน้อย
ต่างฝ่ายก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน พย ามย ามที่จะรับฟัง และเข้าใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย ถ้ามีเรื่องที่ฝ่ายใดไม่สบายใจ
ก็ควรตกลงทำความเข้าใจกันแต่แรก แล้วเราก็ต้องตัดสินว่ายอมรับได้หรือไม่ โดยไม่ฝืนตัวเอง ดังนั้นการที่รู้สึกผิดหวังกับ
เพื่อนนั้น อาจเป็นเ พ ร า ะเรายังไม่รู้จักเพื่อนคนนั้นดีพอก็เป็นได้
3 : เปิดใจคุยกัน
ถ้าหากยังไม่มั่นใจก็ลองเปิดใจคุยกันอีกครั้งก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด และไวที่สุด ที่จะสะสางปัญหาหรือปมต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีต่อกัน
แต่ก็ต้องค่อยๆ คุยกันอย่ างมีสติ ใจเย็นๆ โดยถามหรือแลกเปลี่ยนถึงประเด็นต่างๆ ที่มีปัญหาไปทีละเรื่องทีละประเด็น และเรา
ก็ต้องเปิดใจรับฟังความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามอย่ างตั้งใจเช่นกัน พร้อมทั้งร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุด
4 : ปรึกษาคนรอบข้าง
หากยังไม่กล้าหรือยังไม่พร้อมจะเปิดใจคุยกัน และยังไม่รู้จะทำอย่ างไรกับความรู้สึกแบบนี้ ให้ลองหาที่ปรึกษาที่พร้อมจะรับฟัง
ปัญหากับความรู้สึกของเราในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนคนอื่นที่ไว้ใจได้ คนรักหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่ าง
นักจิตวิทย าหรือจิตแพทย์ เป็นต้น พวกเขาก็พร้อมที่จะรับฟัง และพร้อมที่จะช่วยกันหาทางออกที่ให้เสมอ
5 : ปล่อยวาง
การที่เป็นเพื่อนกันในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นเพื่อนของคุณคนเดิมตลอดไป กาลเวลาผ่านไปคนก็สามารถเปลี่ยนได้
เช่นกัน ตัวเราเองก็ใช่ว่าจะยังเป็นคนเดิมกับเมื่อก่อนได้ตลอด เ พ ร า ะคนเรานั้นเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน เมื่อเรามีความรู้สึกผิดหวัง
อะไรบางอย่ างในตัวเพื่อน แต่เราเลือกที่จะไม่สานต่อ แล้วเลือกถอยมาเอง เพื่อที่จะเติบโตขึ้นในเส้นทางของตัวเอง ก็ยังดีกว่า
คอยมาให้ความสำคัญกับความรู้สึกแย่ๆ แบบนั้น
5 วิธีรับมือ เวลารู้สึกเฟลกับงาน
ในการทำงานนั้นเราก็มีโอกาสเจอเรื่องราวต่างๆ เข้ามามากมายผ่านการทำงาน แต่หลายครั้งก็อาจมีบางเรื่องที่สร้างความรู้สึก
ไม่สบายใจให้แก่เราอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
1 : หาเวลาหยุดพักจากงาน
หากช่วงเวลาที่มีความรู้สึกเฟลกับเรื่องงานมากๆ เราก็มักจะไม่มีกะจิตกะใจที่อย ากจะทำงานสักเท่าไหร่ เ พ ร า ะฉะนั้นลองหา
วันหยุด หรือขอลางานสักวันสองวัน เพื่อจะได้พักผ่อนจากเรื่องงานบ้าง บางทีความรู้สึกนี้มันอาจจะเกิดจากการที่คุณทำงานจน
เหนื่อยเกินไป ถ้าได้หยุดพักสักหน่อย พอหายเหนื่อยแล้ว ก็น่าจะสามารถกลับมาทำงานได้อย่ างเต็มที่
2 : ลดความกดตัวเองจากงาน
การทำตัวให้ยุ่งกับงานตลอดเวลา ไม่ได้ทำให้คุณดูเป็นคนขยัน หรือเอางานเอาการมากขึ้น แต่กลับทำให้คุณต้องเหน็ดเหนื่อย
กับงานมากเกินความจำเป็น จนอาจทำให้กระทบกับการใช้ชีวิตมากเกินไป และถ้าเป็นแบบนั้นบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกแย่ๆ
ที่สะสมจากการโหมทำงานมากเกินไปได้ ดังนั้น ให้ลองลดความกดดันลง ทำงานแบบที่ไม่รู้สึกว่าหนักเกินไป ถ้าเวลายังเหลือ
ก็ไม่จำเป็นเร่งด่วนให้เสร็จในรวดเดียว แต่ควรวางแผนและแบ่งเวลาให้เหมาะสม จะทำให้คุณภาพของงานออกมาดีด้วย
3 : ระบายความรู้สึกกับใครสักคน
หลายคนมักจะเก็บความรู้สึกที่ล้มเหลวผิดพลาดจากงาน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยอย ากจะให้คนอื่นได้รับรู้สักเท่าไหร่ เมื่อ
เก็บไว้คนเดียวนานๆ เข้า ก็ จะ ยิ่งทำให้สภาพจิตใจนั้นย้ำแย่ลงไปด้วย จนอาจจะกระทบกับการดำเนินชีวิตอีกด้วย การที่ได้
ระบายความรู้สึกหรือเล่าปัญหาที่สะสมไว้ในใจให้ใครสักคนที่เราไว้ใจได้ฟังทำให้เราไม่ต้องแบกรับความรู้สึกนั้นไว้คนเดียว
อีกต่อไป และไม่ต้องมาค่อยกังวลเรื่องนี้ จนทำงานไม่ได้
4 : ปรึกษาเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานหรือฝ่ายบุคคล
ในการทำงานเมื่อเรารู้สึกไม่ดีต่อที่งานกำลังทำอยู่ ก็ย่อมจะส่งผลให้งานมีปัญหา หรือ หยุดชะงักลงได้ ดังนั้น การที่ได้ปรึกษา
กับคนที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่โดยตรงอย่ างเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน หรือฝ่ายบุคคล ก็เป็นวิธีที่ดีในการร่วมกันหาทางออก
ของปัญหา หรือวิธีจัดการกับความรู้สึกที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานได้ดี เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับงานของเรา
ด้วย จึงน่าจะสามารถให้คำแนะนำดีๆ จากประสบการณ์ที่เคยเจอมาได้เป็นอย่ างดี
5 : ลองเปลี่ยนงานใหม่
กรณีที่มีความรู้สึกเฟลกับงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันมากๆ ทำไมคุณไม่ลองหาอะไรใหม่ๆ ทำดูบ้างล่ะ เ พ ร า ะมันจะไม่ทำให้คุณ
ต้องทำแต่สิ่งเดิมๆ คิดเรื่องเดิมๆ เจอสังคมสภาพแวดล้อมแบบเดิมๆ จนทำให้คุณต้องรู้สึกแย่ๆ แบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ดังนั้น
การลองเปลี่ยนงาน หรือหางานเสริมที่ตัวเองสนใจนั้นก็เป็นสิ่งที่ฟังดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ไม่แน่คุณอาจจะรู้สึกถูกชะตากับงาน
ใหม่ของคุณ และอาจกลายเป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งในชีวิตของคุณเลยก็ได้
5 วิธีรับมือ เวลารู้สึกเฟลกับตัวเอง
เมื่อคนเราฝันอย ากจะทำอะไรสักอย่ าง หรือต้องการมีอะไรบ้างอย่ าง แล้วบางครั้งมันไม่ได้ราบลื่นอย่ างที่คิด ก็เป็นธรรมดา
ที่จะรู้สึกผิดหวังในตัวเองได้ ดังนั้นการหาวิธีรับมือกับความรู้สึกนั้นจึงสำคัญมาก
1 : หาต้นเหตุของความรู้สึกให้เจอ
การหาที่มาของสาเหตุที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเฟลกับตัวเอง และเลือกที่จะหลีกเลี่ยงต้นเหตุของมันก่อนนั้น จะเป็นตัวช่วยที่
เราจะสามารถจัดการกับความคิดและความรู้สึกของตัวเองได้เป็นอย่ างดี ดังนั้น การที่เรารู้และเข้าใจสาเหตุของการเกิดความ
รู้สึกแบบนี้กับตัวเองก่อน จะทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดความรู้สึกที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์
2 : เปลี่ยนมุมมองความคิด
การที่เรามีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น แล้วยังไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกได้สักทีนั้น อาจเป็นเ พ ร า ะเรายังมีความคิดและมุมมอง
แบบเดิมๆ และยังคงให้ความสนใจกับมันมากจนเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ยังหาวิธีจัดการกับมันไม่ได้ ดังนั้น เราจะต้องหัดที่จะลอง
มองต่างออกไป และเปิดรับความคิดใหม่ๆ ที่จะทำให้เราไม่ต้องคอยให้ความสำคัญกับความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้นอีก
3 : การเพิ่มความพึงพอใจในตนเอง
สาเหตุหลักๆ ส่วนใหญ่ของการเกิดความรู้สึกเฟลกับตัวเองนั้น เป็นเ พ ร า ะการมีความพึงพอใจในตัวเองต่ำ อย่ างการชอบดูถูก
ตัวเอง หรือเอาตัวไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายคนมักจะเข้าใจผิดว่ามันคือการถ่อมตัว แต่มันกลับแตกต่างกันโดย
สิ้นเชิง และสุดท้ายตัวเราเองที่จะเป็นฝ่ายรู้สึกท้อแท้ และผิดหวังในตัวเองที่ไม่สามารถเป็นเหมือนคนอื่นๆ ได้ ดังนั้น หากเราจะ
มีความพึงพอใจในตนเองมากพอ เราก็จะไม่เกิดความรู้สึกที่ในทำนองที่ไม่พอใจกับตัวเองออกมา
4 : การทำในสิ่งที่รัก
การทำในสิ่งที่รักดูจะเป็นอะไรที่ทำง่ายที่สุดแล้ว เ พ ร า ะว่าเป็นสิ่งที่รัก จึงมีความอย ากจะทำอยู่แล้ว โดยไม่รู้สึกว่าจะต้องใช้
ความพย าย ามม า กม า ยเมื่อทำแล้วก็ยังมีความสุขอีกด้วย และ ยังจะช่วยทำให้เราเลิกสนใจกับความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้น
ได้ดีอีกด้วย
5 : การออกไปยังสถานที่ใหม่ๆ
บางครั้งการอยู่แต่ในที่เดิมๆ หรือสิ่งแวดล้อมแบบเดิมๆ ก็ทำให้เราคิดอะไรไม่ออก จึงไม่สามารถหาวิธีจัดการกับความรู้สึกต่างๆ
ที่เกิดขึ้นได้ เ พ ร า ะฉะนั้นการออกไปยังสถานที่ใหม่ ได้เจอผู้คนใหม่ๆ สภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไป อาจทำให้เราได้เรียนรู้
อะไรใหม่ๆ และความรู้สึกแย่ๆ นั้น ก็จะถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่เข้ามา จนทำให้เราลืมความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นไปเลย
โดยไม่รู้ตัวไม่ว่าใครก็มีวันที่รู้สึกแย่กับชีวิตเป็นธรรมดา แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกที่จะหยุดอยู่แค่นี้ และ
ขุดหลุดฝังตัวเองไปพร้อมกับความรู้สึกนั้น หรือเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ เปลี่ยนแปลงมันด้วยตัวเอง แล้วดำเนินชีวิตต่อไปด้วย
ความมั่นใจและความเข้มแข็งที่มากกว่าเดิมจากการที่คุณเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน