“อย่าคิดว่าสูญเสียแล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์ เรานับหนึ่งใหม่ได้เสมอ หากเราคิดจะนับซะอย่าง”
ถ้าสิ่งที่เราคาดหวัง ไม่เป็นดั่งหวัง ถ้าสิ่งที่เราพยายามทุ่มเททำสุดแรงกายแรงใจไม่ประสบผลสำเร็จ
ถ้าสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น และได้สร้างความบอบช้ำ จนทำให้เราต้องจมอยู่กับความทุกข์
เรากำลังก้าวสู่ชีวิตที่เป็นจริงแล้วล่ะ เพราะความเป็นจริงของชีวิต จะสอนให้เรารู้จักยอมรับความพ่ายแพ้ สอนให้เรารู้จักเสียน้ำตา
เพื่อที่จะได้รอยยิ้มคืนกลับมาเป็นรางวัลตอบแทน แต่มันก็ไม่เคยทำให้ใครหมดสิ้นความหวัง หมดสิ้นพลังและกำลังใจไป
กับความพ่ายแพ้ เพียงแค่ความเป็นจริงสอนให้พวกเราทุกคนรู้ว่า “อย่าเพียรสร้างความหวัง แต่ให้เชื่อมั่นใความหวัง”
เพราะความเชื่อมั่นจะนำพาเราไปพบกับหนทางสู่ความสำเร็จ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมายกว่าจะถึงวันนั้น
แม้ว่าจะต้องล้มลงอีกสักกี่ครั้ง แม้ว่าจะต้องผิดหวังอย่างแรงอีกสักกี่หนก็ตาม ลองปล่อยให้ชีวิตผิดพลาดเสียบ้าง
ปล่อยให้ความคาดหวังได้เจอกับความผิดหวัง ปล่อยให้ความฝันกลายเป็นฝันค้างลอยกลางอากาศ
ปล่อยให้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แม้ว่าเกิดขึ้นแล้วจะเลวร้า ยกับชีวิตก็ตามที เพราะทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นจะช่วยสอนและช่วย
เป็นบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่ชีวิต ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้
มีคนเคยพูดไว้ว่า..
“ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราตลอดชีวิต ทุกอย่างมันก็รอเวลาจากเราไปทั้งนั้น เชื่อว่าถ้าชีวิตคนเราไม่ยึดติด
ไม่ต้องแขวนชีวิตไว้กับความคาดหวัง เวลาที่เราสูญเสียหรือเวลาที่เราต้องเจอกับความล้มเหลว เราคงมีภูมิต้านทาน
มากพอที่จะเอาไว้ต่อสู้กับความท้อแท้ อย่าคิดว่าสูญเสียแล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์ เพราะว่าเรานับหนึ่งใหม่ได้เสมอ
หากเราคิดที่จะนับซะอย่าง ไม่มีอะไรบนโลกที่น่ากลัวและไม่จำเป็นต้องกลัวกับความเป็นจริงของชีวิต”
มีพบก็ต้องมีจาก มีได้ก็ต้องมีเสีย และมีสุขก็ต้องมีทุกข์เป็นสัจธรรม เมื่อไรที่เราได้รู้จักสัมผัสและได้เรียนรู้กับชีวิตทั้งสองด้าน
เมื่อนั้นเราจะไม่รู้สึกเสียดายหากเราได้มีโอกาสล้มทั้งยืน แต่เราจะเสียใจไปตลอดชีวิต หากเราไม่สามารถก้าวข้าม
ความล้มเหลวที่ผ่านเข้ามาได้
การตั้งความหวัง.. คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด
การพยายาม คือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะในสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย
ล้มลงสักกี่ครั้ง ผิดหวังมาสักกี่หน ลุกขึ้นยืนให้ได้ แล้วสักวันเราจะเจอความสุข เพราะความสุขไม่ได้หนีจากเราไปไหนหรอก
มันอยู่ใกล้เราแค่เพียงเอื้อมมือจริงๆ ถ้าหากเราไม่ได้ไปตัดสินว่า โลกมันควรเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น และไม่ได้ตั้ง
กฎเกณฑ์ให้กับตัวเองมากจนเกินไป เวลาคิดหรือทำอะไรสักอย่างแล้วมีข้อบังคับ มีกรอบ และสร้างมโนภาพความสำเร็จไว้ล่วงหน้า
เมื่ออะไรๆ ไม่เป็นไปตามกฎของเรา เราก็ทุกข์ เราก็เสียใจ และเราก็ใจเสียเอาได้ง่ายๆ มีคนเคยบอกไว้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ
ไม่ใช่สิ่งที่จะกำหนดความสุขของคุณ แต่มันเป็นความคิดของคุณเองต่างหาก ความคิดที่มีต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคุณนั่นเอง
จะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับเราทั้งนั้นเป็นคนกำหนด ล้มทั้งยืนเสียบ้างก็คงไม่เสียหายไร แต่ล้มไม่เป็นเลยนี่สิ..
ลองคิดดูเล่นๆ ซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตต่อไปหลังจากนี้