ในสังคมปัจจุบันความน่าเชื่อถือ ถือเป็นตัวการความสำคัญในการร่วมตัดสินใจ หรือทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ไม่ว่าจะด้านธุรกิจ
หรือด้านการงานติดต่อต่างๆ หากคุณทำงานในด้านนี้และคุณรู้สึกไม่มีความมั่นใจ ไม่กล้าที่จะพูดหรือไม่กล้าที่จะตัดสินใจ
มาลองเปลี่ยนวิธีคิดกันค่ะ เพื่อช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญทุกๆการกระทำควรอยู่ในความพอดี ต้อง
ไม่มั่นใจเกินไปนะจ๊ะ !!!!
1 : อย่ าเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น
เป็นหลักการง่ายๆ แต่หลายคนก็ยังทำใจแข็งไม่ได้เสียที วิธีแก้คือ ต้องทำใจยอมรับตัวตนของเรา ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
เช่น สีผิว รูปร่าง ทุกคนเกิดมาย่อมแตกต่างกัน ดังนั้นจงรักตนเอง ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นดีที่สุด
2 : อย่ าโทษตัวเองไปเสียทุกเรื่อง
ปรับวิธีคิดให้มีเหตุและผลมากขึ้นกว่าเดิม บางครั้งคุณก็หัดเข้าข้างตัวเองบ้างก็ได้ ไม่ต้องเอาความผิดคนอื่นมาทำให้
คุณต้องคิดมาก
3 : เผชิญหน้ากับการว่ากล่าว
การว่ากล่าวนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องพบเจอ แต่สำหรับคนที่ไม่มีความมั่นใจจะเกิดอาการสะเทือนใจมากกว่าคนอื่น
เพื่อจะลบความรู้สึกนี้ก่อนอื่นต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ของการว่ากล่าว เช่น ติเพื่อก่อ หรืออคติ หากเข้าข่ายประเด็นหลัง
อย่ าเก็บมาใส่ใจ เ พ ร า ะจะยิ่งบั่นทอนความมั่นใจให้ลดน้อยลงไปอีก แต่หากเป็นเหตุผลแรก ให้ยิ้มสู้ รับฟัง และกล่าว
ขอบคุณ นำคำตินั้นมาปรับปรุงพัฒนาตนเอง
4 : จงเปรียบกับคนที่ด้อยกว่า
สำหรับคนที่กำลังท้อแท้ คิดว่าตนเองแย่ที่สุดแล้วให้หันมามองผู้ที่ลำบากกว่า หรือจะลองเป็นอาสาสมัครไปเยี่ยมผู้ย ากไร้
ไม่มีรโอกาสดูบ้างก็ได้ เ พ ร า ะการทำเช่นนี้นอกจากจะสร้างกำลังใจ ให้ตนเองต่อสู้กับความย ากลำบากแล้ว ยังได้บุญ
กุศลอีกด้วย
5 : ไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก
ไม่ควรคิดว่าไม่มีใครเข้าใจปัญหาของเรา หรือไม่มีใครสนใจอันที่จริงหากเรามองไปรอบด้านก็จะเห็นว่าหลายคนยินดีที่จะ
ช่วยเหลือเรา เพียงแต่ว่าเราไม่ได้เอ่ยปากขอร้องเท่านั้นเอง แน่นอนว่าหากเราตกที่นั่งลำบาก และสิ่งที่ขอให้ช่วยก็ไม่ได้
เหนือบ่ากว่าแรงนัก เชื่อว่ามีคนเต็มใจช่วยแน่นอนค่ะ
6 : พูดคุยกับเพื่อน
เมื่อไรที่มีปัญหาหนักใจ อย่ าลังเลที่จะปรึกษาเพื่อนสนิท หรือว่าหากเกิดขัดใจกันขึ้นมา อย่ าลังเลที่จะเปิดอกพูดคุยกัน
อย่ าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นปัญหาคาใจ
7 : ปรึกษานักบำบัด
หากพบว่าตนพย าย ามแก้ไขวิธีคิดแล้ว แต่ไม่สำเร็จสักทีให้นัดเวลาพูดคุยกับนักบำบัด หรือจิตแพทย์ก็ได้ ไม่ต้องกลัว
หรืออายว่าคนอื่นจะหาว่าบ้า เ พ ร า ะหากปล่อยให้กังวลใจอยู่เช่นนี้สุขภาพจิตเสียแน่นอน
8 : ให้รางวัลตนเอง
หลังจากที่ผ่านงานย ากๆ หรืออุปสรรคหนักๆ เช่น ไปท่องเที่ยวพักผ่อน นัดสังสรรค์กับเพื่อนรู้ใจ
9 : เก็บความภูมิใจลงในบันทึก
ให้จดบันทึกข้อดี ลักษณะเด่น ความสามารถพิเศษหรือความสำเร็จที่ตนเอง ภาคภูมิใจลงบนไดอารี่ หรือสมุดจด อาจทำ
เครื่องหมายเน้นผลงานที่ทำสำเร็จ เ พ ร า ะเมื่อไรที่หยิบมาอ่านจะได้ชื่นใจ เกิดความภูมิใจในความสามารถของตนเอง
หรืออาจใช้วิธีประเมินตนเองอย่ างยุติธรรม โดยจดสิ่งที่ตนทำสำเร็จในแต่ละวัน แล้วประเมินอาทิตย์ละครั้ง เพื่อเพิ่ม
ความมั่นใจให้ตนเอง
10 : เสริมจุดเด่นลดจุดด้อย
อย่ าลังเลที่จะเรียน หรือทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ ไม่แน่คุณอาจจะมีพรสวรรค์บางอย่ าง ซ่อนอยู่แบบไม่รู้ตัวมาก่อนก็ได้
11 : พย าย ามทำกิจกรรมที่ตนชื่นชอบ
ไม่ต้องกังวลว่าต้องไปตามลำพังตราบใด ที่ยังชอบและมีความสุขกับกิจกรรมนั้น ๆ เช่น ไปเรียนวาดรูปเรียนภาษา
ต่างประเทศนอกจากจะทำให้จิตใจแจ่มใส ยังอาจจะได้รู้จักเพื่อนใหม่เจอคนหลากหลายมากขึ้น
12 : ดูแลสุขภาพตนเอง
พย าย ามออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ รักษาความสะอาด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วิธีดูแล
ตนเองเช่นนี้นอกจากจะให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นแล้ว ยังทำให้จิตใจแจ่มใสอีกด้วย ไม่ให้จิตใจจดจ่อหมกมุ่นอยู่กับ
ข้อด้อยของตนเองมากไป