แค่นั่งเฉยๆ ยังเหนื่อย! แจก 7 เคล็ดลับเอาชนะ “ ความขี้เกียจ ”
ปลุกตัวเองให้ตื่นตัว ไม่รู้สึกเฉื่อยชาอีกต่อไป
สาวซิสคนไหนชอบพ่ายแพ้ให้กับ “ ความขี้เกียจ ” อยู่บ่อยๆ บ้างคะ ยกมือขึ้น ? เรามั่นใจว่าทุกคนต้องเคยเจอกับ
โ ม เมนต์ที่รู้สึก ขี้เกียจ แบบสุด ๆ กันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะขี้เกียจตื่นเช้าไปเรียน ขี้เกียจสะสางงานที่วางกองอยู่
ตรงหน้า ขี้เกียจทำงานบ้าน ขี้เกียจอ่านหนังสือ และอีกสารพัดเรื่องที่ขี้เกียจจนไม่อย ากจะขยับตัวไปทำมันทาง
เราต้องบอกเลยว่าความขี้เกียจมันเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยเลยนะ โดยอาจเกิดจากความเหนื่อยล้าจากการใช้
ร่างกายและสมองทำงานหนักติดต่อกันนานๆหรืออาจเกิดจากการต้องฝืนตัวเองทำในสิ่งที่ไม่อย ากทำเ พ ร า ะ
ไร้แรงจูงใจหรือแรงบันดาลใจก็ได้เหมือนกัน
แ ล้ ว ห า ก ปล่อยให้ความขี้เกียจมันคลืบคลานเข้ามาครอบงำเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้คุณสาวๆ กลายเป็นคน
เ ฉื่ อ ย ช า แ ล ะไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้สำเร็จก็เป็นได้นะคะ วันนี้เราจึงรวม ลิสต์ 7 เคล็ดลับเอาชนะ
“ ความขี้เกียจ ” มาให้ได้ลองทำตามกัน เพื่อช่วยปลุกให้รู้สึกตื่นตัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ
มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปดูเคล็ดลับแต่ละข้อได้เลยค่าา~
1 : ค้นหาให้เจอว่าปัญหาเกิดจากอะไร
เริ่มต้นด้วยเคล็ดลับเอาชนะความขี้เกียจข้อแรกที่เราหยิบมาให้ได้ลองทำตามกัน ไม่ว่าคุณสาวๆ จะกำลังเผชิญหน้า
กับช่วงเวลาที่ย ากลำบากเรื่องไหนก็ตามสิ่งแรกที่ควรทำก็คือการ ค้นหาให้เจอว่าต้นตอของปัญหานั้นๆ มันเกิดจาก
อะไรค่ะอย่ างคนที่มักจะเจอกับช่วงเวลาที่รู้สึกขี้เกียจอยู่บ่อยๆ ก็ลองถามตัวเองดูให้ดีๆ สิว่าสาเหตุที่ทำให้ขี้เกียจ
จนไม่อย ากลุกไปทำอะไรมันมีต้นตอมาจากไหน เช่น ความเหนื่อยล้า/หมดกำลังใจ/เข้าสู่ช่วงหมดไฟในตัวเอง
/ กลัวจนไม่กล้าลงมือทำ / แค่รู้สึกขี้เกียจเฉยๆ แบบไม่มีเหตุผล ฯลฯ พอหาต้นตอของปัญหาเจอก็จะช่วยให้
หาทางแก้ไขได้ง่ายขึ้นค่ะ
2 : หาทางแก้ไขต้นตอความขี้เกียจ
หลังจาก ที่หา ต้นตอของความรู้สึกขี้เกียจจนเจอแล้ว สเต็ปต่อไป ที่ต้องทำก็คือ การโฟกัสไปที่ตัวการเหล่านั้นและรีบ
หาทางแก้ไข เพื่อกระตุ้นให้กลับมารู้สึกตื่นตัวอีกครั้งค่ะ เช่น หากสาเหตุที่ทำให้รู้สึกขี้เกียจมันเกิดจากความเหนื่อยล้า
จนสมองไม่แล่นและไม่มีแรงลงมือทำสิ่งไหน ก็ควรหาเวลาพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายตัวเองและชาร์จพลังกลับคืนมาอีก
ครั้งหรือหากความรู้สึกขี้เกียจที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเกิดจากการไม่มีแรงบันดาลใจเ พ ร า ะอยู่กับอะไรเดิมๆ นานเกินไป
ก็ ถึ ง เ ว ล า อ อ ก ไปเปิดหูเปิดตาพบเจออะไรใหม่ๆ เพื่อปลุกไฟในตัวเองกลับมา เป็นต้น เชื่อสิว่าการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมหรือกิจวัตรประจำวันบางอย่ าง แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันอาจช่วยให้เอาชนะความขี้เกียจ
ได้อย่ างมีประสิทธิภาพก็ได้นะคะ
3 : จัดระเบียบสิ่งของรอบตัว/สภาพแวดล้อม
โอ๊ยยจะหันซ้าย หันขวามองด้านหน้า หรือเอี้ยวคอไปมองด้านหลัง ก็เจอแต่กับอะไรเดิมๆ ที่สุดแสนจะน่าเบื่อจนพาล
ทำให้ระดับความขี้เกียจในตัวเองมันพุ่งทะย านขั้นสุด!!! เราขอเตือนไว้เลยว่าบรรย ากาศรอบตัวก็เป็นหนึ่งในปัจจัย
ที่ทำให้รู้สึกขี้เกียจขึ้นมาได้เหมือนกันนะคะ ลองนึกดูสิว่าหากต้องใช้เวลาอยู่ท่ามกลางโต๊ะทำงานที่มีเอกสารวาง
กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ หรือห้องที่รกไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่วางปนกันไม่เป็นที่เป็นทาง มันก็อาจทำให้รู้สึก
เหนื่อยใจขึ้นมาดื้อๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยก็เป็นได้ แบบนี้จึงควรรีบลุกขึ้นมา ปัดกวาดทำความสะอาด
และจัดระเบียบสิ่งของรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน / ห้องนอน / ห้องนั่งเล่น / รถยนต์ส่วนตัว ฯลฯ พอมอง
ไปเห็นสภาพแวดล้อมที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็จะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอย ากจะลงมือทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นไงละ
4 : เลิกพูดจาบั่นทอนกำลังใจตัวเอง
สาวซิสคะ! ในบางครั้งสาเหตุที่ทำให้รู้สึกขี้เกียจตัวเป็นขน จนไม่มีแรงใจลุกขึ้นมาทำงาน อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน
และอีกสารพัดหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ มันอาจไม่ได้เกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือใครที่ไหนไกลเลยนะเ พ ร า ะ
หากเธอมัวแต่พูดจาบั่นทอนกำลังใจตัวเองอยู่บ่อยๆว่า“ ชั้นทำไม่ได้หรอก!”/“งานเยอะขนาดนี้ใครจะทำหมด”
/ “ ขี้เกียจ… ไม่ทำดีกว่า! ” ฯลฯ มันก็จะยิ่งทำให้ติดแหง็กอยู่ในวังวนคนขี้เกียจ 2022 แบบหนีไปไหนไม่ได้
ทางที่ดีควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องนี้ของตัวเองซะใหม่ โดย เปลี่ยนมาพูดให้กำลังใจตัวเองมากขึ้นว่า
“ ชั้นต้องทำได้! ” / “ ของแค่นี้สบายมาก! ” / “ รีบทำให้เสร็จดีกว่า จะได้ไปพักย าวๆ ” เป็นต้น เพื่อเป็น
การให้กำลังใจตัวเองและช่วยสร้างทัศนคติเชิงบวกด้วยค่ะ
5 : อย่ าโฟกัสแต่เป้าหมายใหญ่ ลองตั้งเป้าหมายเล็กลงมาหน่อย
เคยเป็นมั้ยคะ พอตั้งเป้าหมายว่าจะทำบางสิ่งบางอย่ างแต่พอคิดดูดีๆแล้วมันแอบย ากหรือยิ่งใหญ่เกินตัวไปสักนิด
แค่คิดก็ทำให้รู้สึกท้อถอยหมดกำลังใจได้ง่ายๆ แล้วนะ นั่นก็เ พ ร า ะว่าเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปมันอาจนำไปสู่ภาวะ
หมดไฟ รู้สึกอ่อนล้า ไม่มีแรงจูงใจ และอย ากจะวิ่งหนีไปให้พ้นๆ จนขี้เกียจและไม่อย ากจะลงมือทำขึ้นมาซะงั้น!!!
แบบนี้หนึ่งในเคล็ดลับเอาชนะความขี้เกียจ ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ก็คือ การกำหนดเป้าหมายที่เล็กลงมาและ
คิดว่าตัวเองสามารถทำได้จริง ซึ่งเป้าหมายเล็กๆ เหล่านี้จะนำพาไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดที่เคยตั้งใจไว้ แบบ
ไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือท้อจนเกินไปค่ะ
6 : ทำเช็กลิสต์เพื่อกระตุ้นให้อย ากลุยต่อ
หลายคนหลังจากที่นั่งทำงานงกๆ พอทำงานนั้นเสร็จก็หยิบอีกงานขึ้นมาทำต่อแบบรัวๆ จนไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำงานเสร็จ
ไปถึงไหนแล้ว ก็คงแอบรู้สึกเหมือนพลังงานในร่างกายเริ่มติดลบ จนขี้เกียจและไม่อย ากทำงานต่อไปใช่มั้ยละ??? เรา
จึงอย ากแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัวได้อีกครั้ง ด้วยการ ทำเช็กลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเอาไว้
ล่วงหน้า ก่อนเลยค่ะโดยเมื่อไหร่ก็ตามที่ทำงานชิ้นไหนสำเร็จลุล่วงลงไปแล้วก็ให้คุณสาวๆ ขีดรายการนั้นๆ ทิ้งไป
พอเห็นรายการสิ่งที่ต้องทำมันเริ่มลดลงเรื่อยๆ ก็จะช่วยเพิ่มพลังให้รู้สึกอย ากทำงานต่อไป ไม่แน่ว่าอาจทำงาน
เพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็ทำทุกอย่ างเสร็จสิ้นไปหมดแล้วก็ได้นะ
7 : หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนที่อาจทำให้วอกแวก
พูดคุยกันเพลินๆ จนมาถึงเคล็ดลับเอาชนะความขี้เกียจข้อสุดท้ายที่เราหยิบมาบอกกันแล้วนะคะ บางครั้งเวลาที่สาว
ซิ ส ขี้ เ กี ยจทำงาน / ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เสร็จสิ้น อาจไม่ได้เกิดจากความรู้สึกขี้เกียจจริงๆ แต่เป็นเ พ ร า ะมีสิ่ง
รบกวนอย่ างสมาร์ทโฟน / โซเชียลมีเดีย / รายการทีวี / ซีรีส์เรื่องโปรด / สัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก ฯลฯ เข้ามาทำให้
สมาธิแตกกระเจิงจนไม่เป็นอันทำงานก็เป็นได้หากนี่คือตัวการที่ทำให้ระดับความขี้เกียจมันพุ่งสูงขึ้นจนต้านทาน
ไม่ไหว ก็แนะนำให้ พาตัวเองไปอยู่ในที่เงียบๆ หรือวางอุปกรณ์ที่อาจทำให้วอกแวกให้ห่างจากตัวช่วงเวลาที่
ต้องทำงาน ก็จะช่วยสร้างสมาธิให้จดจ่อกับงานตรงหน้ามากขึ้น และช่วยให้ทำงานต่างๆ เสร็จลุล่วงได้เร็ว
และมีประสิทธิภาพขึ้นด้วยค่ะ
ซิสจ๋าา หลังจากที่ได้อ่าน เคล็ดลับเอาชนะความขี้เกียจ ที่เราลิสต์มาบอกกันวันนี้ไปจนครบทั้ง 7 ข้อแล้ว คิดว่า
สามารถทำตามที่เราแนะนำไปได้มั้ยเอ่ย??? ทางเราเข้าใจดีนะว่า “ ความขี้เกียจ ” ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่มันย าก
เกินจะต้านทานไหว เ พ ร า ะหากรู้สึกขี้เกียจขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะส่งผลให้รู้สึกหมดแรง ไม่มีสมาธิ ไม่มีกระจิต
กระใจในการลงมือทำสิ่งต่างๆ แต่ถ้าคุณสาวๆ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนิสัยบางอย่ างของตัวเอง
ก็จะช่วยขับไล่เจ้าตัวขี้เกียจออกไป และกระตุ้นให้ใช้ชีวิตสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้แน่นอนค่ะ