Home ข้อคิด ให้กำลังใจ รวยแล้วแต่ไม่สนพี่สนน้อง จนเมื่อวันหนึ่งต้องตกอับ (เตือนสติได้ดี)

รวยแล้วแต่ไม่สนพี่สนน้อง จนเมื่อวันหนึ่งต้องตกอับ (เตือนสติได้ดี)

0 second read
ปิดความเห็น บน รวยแล้วแต่ไม่สนพี่สนน้อง จนเมื่อวันหนึ่งต้องตกอับ (เตือนสติได้ดี)
2

เชื่อว่า….ในช่วงชีวิตของคนเราที่ผ่านมานั้น มันมีทั้งสุขและทุ ก ข์ ปะปนกันไป

ชีวิตมีขึ้นมีลงต่างกันไป ดังนั้นช่วงชีวิตที่ ” ต กต่ำถึงขีดสุด “…

ในความรู้สึกของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน จะใช้ชีวิตในช่วงที่ต ก ต่ำ

ถึงขีดสุดได้อย่ างไร และต้องมีสติในการใช้ชีวิตให้มากขึ้นพร้อม

ดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ และเรื่องที่นำมาให้อ่านในวันนี้ก็คือ

เรื่องมันมีอยู่ว่า…นานมาแล้วผมมีที่ดินอยู่ในแทบจะทุกเขตของกทม.และตามหัวเมืองใหญ่ๆ

รวมแล้วก็ประมาณ 500 ไร่ได้ และเมื่อ 30 ปีก่อนนั้นผมพกเงินในกระเป๋าไว้

เที่ยวครั้งละเป็นแสนๆ ทำมาค้ าข ายได้เงินมามากมาย ก็ส่งลูกไปเรียนเมือง

นอกกันหมด ลูกผมไม่ต้องทำงานเลย ผมให้พวกเขาเรียนอ ย่ า งเดียวพอ

เมี ย ผมชอบเล่นหุ้ น ราค าหุ้ นก็ขึ้นเอาๆ ก็ได้กำไรมาเยอะอยู่เหมือนกัน

เรามีเงินสดกันหลายร้อยล้ าน พออยู่มาวันนึงนั้น ก็มีญาติผมคนหนึ่งซึ่งเขา

กำลังเดื อ ดร้อนมายืมเงิน วันนั้นผมก็เลยด่ าเขาซะแร ง แบบที่ว่าเสี ย ๆหาย ๆ

เพราะคิดว่าตนเองมีเงินมากจะพูดอะไรกับใครยังไงก็ได้ แต่ก็ให้เงินเขาไป

อยู่นะ ผมให้เขาไปแสนนึง บอกเขาว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกนะ เพราะเงิน

ที่ให้คิดว่าให้ทาน จากนั้นเขารับเงินพร้อมน้ำตา ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าเขาจะ

รู้สึกแบบไหน เมื่อผมคิดการใหญ่ตั้งโรงงานอะไหล่ที่อยุธย าแล้วในปีนั้นก็

เกิดวิ ก ฤ ตน้ำท่วมใหญ่ น้ำได้พัดพาทุกอ ย่ า งไปจากชีวิตผม รถผม 19 คัน

บ้านอีก 5 หลัง ที่ดินมากมาย เงินสดที่เคยมี แฟนผมเล่นหุ้ นเจ๊ งไปสี่ร้อย

กว่าล้าน ลูกก็ทำธุรกิจจนหมดตัวข าดทุนภายใน 2 ปี คือสิ่งที่มีมันหายไป

ในพริบตา เหลือไว้เพียงหนี้กว่า 200 ล้าน ทุกวันนี้ผมคือบุคคลล้มละลาย

เช่าห้องที่พออยู่ได้ ข ายก๋วยเตี๋ยวป ร ะ ทั ง ชี วิ ต ไปวันๆ และเมียผมก็

ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย ทั้งลูกผมก็ต่างแยกย้ า ยกันไปเอาตัวรอด

ต่างคนต่างไป แยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตตนเอง หลังจากวันนี้ผมก็

ไม่เคยได้เห็นหน้าลูกอีกเลย มาบัดนี้ผมอายุ 76 ปีแล้ว ผมต้องมาคอยยก

หม้อก๋วยเตี๋ยว คอยล้ างจาน แต่พอมันอยู่นานวันเข้า ทุกวันนี้ผมปลงได้เอง

ผมมาลำบากตอนแก่ แต่ก็เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น เงินค่าเช่ าห้องนี้ผมไปยืม

กับคนที่ผมเคยด่ าเขาให้เขาไปแสนนึง แต่ลูกเขายื่นเงินให้ผมแสนห้า และ

บอกผมว่าพ่อผมบ ากหน้าไปยืมเงินคุณลุงเพราะตอนนั้น ผมต้องเข้าโรง

พ ย า บ า ลเพื่อ ผ่ า ตั ดใหญ่ คุณลุงด่ าแล้วโยนเงินให้เหมือนพ่อผมเป็น

หมูเป็นหม าเลย พ่อผมยอมหมดเพราะชีวิตลูกมีค่ามากกว่าอะไรทั้งนั้น

ต่อให้ทำยังไงพ่อก็ยอม พ่อบอกว่าถ้ามีเงินจะให้หามาคืนคุณลุงให้ได้

และแสนนี้ผมคืน ส่วนห้าหมื่นคือด อ กละกัน ไม่มีการติดหนี้บุญคุณกันอีก

ต่อไปแล้ว แต่หากคุณลุงลำบาก คุณลุงมายืมกับผมได้นะ ผมจะให้กู้

แต่ปมผมจะไม่ด่ าเหมือนที่คุณลุงด่ าพ่อผมหรอกนะ เพราะถ้าไม่มีเงิน

คุณลุง ผมคงไม่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะเงินแสนที่คุณลุงโยน

ให้ในวันนั้น มันเลยต่อชีวิตให้ผมได้ ผมทำตามที่พ่อบอกแล้วนะที่ให้ตอบ

แทนหนี้ก้อนนี้ให้ลุง และส่วนลูกคุณลุง ผมไม่รู้ก ร ร มของใครของมันนะ

เมื่อได้ยินดังนั้น ผมเดินร้องไห้มาถึงบ้านเอาเงินมาจ่ายค่าห้อง และลงทุน

ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆมีเงินเก็บไว้ 30,000 บาท จากวันนี้ผมเข้าใจความรู้สึก

ของคำว่า ก ร ร มตามสนอ ง จริงๆแล้ว หลานเขาไม่ได้ด่ าผมหรอก

แต่หลานพูดความจริงให้ฟังต่างหาก แค่ผมรับความจริงไม่ได้เท่านั้นเอง

แต่ตอนนี้ผมมีความสุขดี พระ แม่ชี ขอท าน มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านผม

ผมไม่คิดเงินเลย ตอนผมมีเยอะๆ ผมไม่ชอบคนบอกบุญ ผมไม่เคยทำ

บุญเลย ผมกินผมเที่ยวตลอด แต่ตอนนี้ผมหมดตัว มีหนี้สิน ไม่มีเพื่อน

ไร้ลูกผมถึงได้ฟังธรรมะเข้าวัดเป็น ตอนนี้ผมห่วงแค่เมียผม ผมภาวนา

ให้เมี ยไปก่อนผม เพราะไม่อย ากเห็นเมียลำบ าก ไม่ต้องถามว่าผมเป็น

ใคร ร้านอยู่ตรงไหนแค่จะเก็บเรื่องราวมาให้อ่ าน ให้เป็นข้อคิดเตือนใจ

คงไม่มีคำว่าย า กจนสำหรับคนขยัน ไม่มีการปลงต ก หากไม่เคยสูงสุดแล้วมาต่ำสุด …

Load More Related Articles
Load More By deejing
Load More In ข้อคิด ให้กำลังใจ
Comments are closed.

Check Also

แปลกแต่จริง คนสมัยนี้กินหรู..อยู่สบาย แต่ไม่ชอบจ่ายหนี้

และในวันนี้เราได้นำบทความที่จะช่วยเตือนสติ มาฝากคนที่กำ … …