เล่นโซเชียลอย่ างไรไม่ให้เป็นทุกข์
ทุกวันนี้คนเรามีปัญหากันก็เ พ ร า ะการเล่นโซเชียล เราจะ เล่นโซเชียลอย่ างไรไม่ให้เป็นทุกข์
เคล็ดลับการใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่ างมีความสุข 10 เคล็ดลับ
1 : กำหนดระยะเวลาดูให้น้อย
สื่อโซเชียลมีเดียแย่งเวลาจากคุณ และคนอื่น ๆ รอบตัวคุณ อย่ างมาก หลายครั้งที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว พอรู้ตัวอีกที หมดเวลา
กับเรื่องไร้สาระ หรือหาประโยชน์ไม่ได้ไป 1 วันแล้ว วันแล้ววันเรา หรือเป็นสิ่งติด ที่เราเลิกไม่ได้ การดูสื่อแต่พอดี
2 : กำหนดช่วงเวลาดูสื่อ เวลาเดิม เป็นประจำ
ความสม่ำเสมอมีความสำคัญอย่ างยิ่ง การกำหนดช่วงเวลาเดิม เป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดอาหาร ถอน จากการติดสื่อ
โซเชียลมีเดียได้ เช่น ช่วยลดอาการกระวนกระวาย หงุดหงิด เป็นต้น การกำหนดเวลาที่แน่นอน ทำให้เรารู้สึกคาดเดา
ได้ และไม่รู้สึกเครียดจากการไม่เล่นสื่อโซเซียล
3 : เลือกสื่อที่ต้องการดูที่มีประโยชน์ต่อชีวิต
สื่อปัจจุบันมีความหลากหลาย เ พ ร า ะต้องผลิตออกมาแข่งขันกันทางการตลาด การรับรู้ข้อมูลมากเกินไป จะทำให้คุณ
สมองของคุณถูกบรรจุไปด้วยข้อมูลขยะ ที่ไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต การประมวลผลของสมองก็ช้าลง เ พ ร า ะมีข้อมูล
ที่ไร้ประโยชน์เก็บไว้มากเกินไป เลือกสื่อที่เหมาะสมกับคุณ และมีประโยชน์ และเชื่อถือได้
4 : ชะลอการโพสต์ เลื่อนเวลาออกไป
ห า ก คุ ณ รู้สึกแย่ หรืออย ากระบายอะไรบางอย่ าง เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วอย ากโพสต์อะไรบางอย่ าง ให้หยุด
ตัวเองเอาไว้ก่อน รอสัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ให้ถามตัวเองว่า ยังอย ากจะเขียนข้อความ
แบบเดิม ลงไปในสื่อโซเชียลนั้นหรือเปล่าแท้จริงแล้วเราต้องการสื่อสารกับใคร หากต้องการระบายความรู้สึก ส่งข้อความ
ส่วนไปหาเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้ เล่าเรื่องหรือระบายความในใจให้เพื่อน น่าจะเป็นการดีกว่า โพสต์ให้ทุกคนได้อ่านซึ่ง
บางคนอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องมารับรู้เรื่องแย่ ๆ ของเรา หรือบางคนก็รู้สึกดี กับเรื่องแย่ ๆ ของคุณ แต่ถ้า
มั่นใจแล้วว่าต้องการโพสต์จริง และไม่สร้างผลกระทบให้ตนเองและผู้อื่น ก็โพสต์ข้อความนั้น และรับผิดชอบต่อสิ่ง
ที่คุณทำด้วยทุกครั้ง
5 : โพสต์ในแง่ดี และเป็นประโยชน์
จะมีสักกี่คนที่อย ากรู้ว่า คุณทำอะไร กินอะไร สวยขึ้นแค่ไหน มีความสุขกับชีวิตไหม คนส่วนใหญ่สนใจเพียงว่า จะได้รับ
ประโยชน์อะไรจากคุณ อย่ างน้อยคุณเป็นแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจ และทำให้ชีวิตของคนที่พบเจอคุณดีขึ้น ดีกว่าการ
โพสต์ไร้สาระ ที่หาประโยชน์ไม่ได้ ก่อนโพสต์ถามตัวเอง 2 คำถามว่า 1. สิ่งที่กำลังจะโพสต์เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณ
หรือไม่ 2. สิ่งที่กำลังจะโพสต์มีประโยชน์ต่อคนอื่นหรือไม่ ถ้าคำตอบคือ ใช่ ก็โพสต์เลย แต่ถ้ามันไม่มีประโยชน์
ต่อตนเองและผู้อื่น ก็หยุดไว้ก่อน อย่ าโพสต์เลย
6 : อย่ าโพสต์เรื่องแย่ เพียงเ พ ร า ะรู้สึกแย่ หากคุณรู้สึกแย่
เรื่องแย่ ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ กับทุกคน ไม่เลือกว่าจนหรือรวย สวยหรือขี้เหร่ แต่การโพสต์เรื่องแย่ เพียงเ พ ร า ะคุณรู้สึกแย่
ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก เ พ ร า ะนอกจากทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูไม่ดี ยังทำให้ผู้อื่นที่รับรู้ รู้สึกแย่ไปด้วย หรืออาจจะมี
บางคนที่รู้สึกดีกับเรื่องแย่ของคุณ เ พ ร า ะเขาพวกนั้น รู้สึกสมน้ำหน้าคุณอยู่ การเปลี่ยนเรื่องแย่ในชีวิต ให้เป็นบทเรียน
มุมมอง เรื่องนี้ให้บทเรียนอะไรกับชีวิตของคุณ และบอกแนวทางที่คุณหาทางออกให้กับชีวิต เมื่อเจอเรื่องแย่นั้น เรื่อง
ราวของคุณจะน่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่ างมาก แม้จะเจอเรื่องแย่ แต่ชีวิตคุณไม่ได้แย่ วิธีนี้เป็นการ
นำเสนอตัวเองอย่ างมีชั้นเชิงอีกด้วย
7 : กด LIKE แต่พองาม
บางคนอย ากแสดงตัวตนให้คนอื่นรู้ “เฮ้ ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันมีตัวตน ฉันจะกด LIKE เธอทุกรูปเลย” การกด LIKE คนอื่น
จำนวนมากจนผิดปกติก็สื่อได้ว่า คุณต้องการ การมีตัวตน ต้องการความสนใจ ต้องการเป็นที่รัก และได้รับการยอมรับ
จากผู้อื่นหรือในบางครั้งกด LIKE คนอื่นเพียงเพื่ออย ากได้ LIKE กลับมาบ้างเหมือนเป็นการแลกกันควรกด LIKE
แต่พองาน เฉพาะสิ่งที่คุณชื่นชอบมาก ๆ บางครั้งคุณกด LIKE ทั้งที่คุณไม่ได้ชอบข้อความนั้น คุณกดเพื่อบอกให้
เจ้าของข้อความรู้ว่า คุณอ่านมันแล้ว เท่านั้นเอง หรืออาจมีนัยอื่นแอบแฝง ที่กด LIKE ไม่ได้ชอบข้อความ
แต่ชอบคนที่โพสต์ข้อความนี้
8 : เห็นคุณค่าของตัวเอง
เมื่อคุณเห็นคุณค่าในตัวเอง คุณจะไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร จนทำให้คุณไม่มีความสุข เ พ ร า ะสื่อโซเชียล
เป็นเพียงการตัดต่อ ส่วนที่ดีที่สุดของชีวิตแต่ละคนให้คุณได้เห็น จนบางทีรู้สึกอิจฉา แต่อย่ าลืมว่า นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
ของชีวิตเขา ความเป็นจริงชีวิตคนเรามีทั้งสุข และทุกข์ปนกันไป แต่ไม่มีใครบอกคุณทั้งหมดเท่านั้นเอง การเปรียบ
เทีย บ นอกจากทำให้คุณไม่มีความสุขแล้ว คุณยังต้องการอะไรมากมาย เพื่อให้มีเท่ากับคนอื่น ดีให้เท่ากับคนอื่น
ทั้งที่ ความสุขของคุณ กับความสุขของคุณอื่น ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน คุณคิดไปเองว่าถ้าคุณทำเหมือนคนอื่น คุณจะมี
ความสุขเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงคุณกลับพบว่าคุณไม่ได้มีความสุขเลยความสุขของแต่ละคนแตกต่างกัน
การวิ่งไล่ตามความสุขของคนอื่น ทำให้คุณไม่มีความสุข จงภูมิใจในตนเอง และเห็นคุณค่าในตัวเองมีความสุข
ในแบบของคุณเอง
9 : ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่อยู่ตรงหน้า มากกว่าคนในโซเชียล
ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน “สังคมก้มหน้า” มีมากขึ้นทุกวัน และเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มคน เราสามารถพบเห็นภาพนี้ได้ทั่วไป
แม่ที่พาลูกไปรับประทานอาหารนอกบ้านถือโทรศัพท์ตอบไลน์ลูกค้าตลอดเวลาจนไม่มีเวลาสบตาลูกสามีที่งานยุ่ง
คุยประชุมกับเพื่อนร่วมงานจนไม่มีเวลาจับมือกับภรรย า กลุ่มเพื่อนบนรถไฟฟ้าที่มาด้วยกันต่างคนต่างจ้องจอของ
ใครของมันคนที่แปลกหน้าตามห้างสรรพสินค้าต่างดูโทรศัพท์มือถือเห็นภาพเหล่านี้จนชินตาแต่ก็ไม่มีใครเปลี่ยน
เ พ ร า ะทุกคนให้เหตุผลว่า “จำเป็น” มนุษย์สื่อสาร จ้องตา จับมือ และมีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลง เทคโนโลยีกำลัง
ก ลื น กิ นพวกเราให้กลายเป็นเสมือนเครื่องจักรเข้าไปทุกวัน ใส่ใจคนตรงหน้าคุณ จับมือภรรย ามากขึ้น พูดคุย
สบตามากขึ้น จ้องตาลูกให้มากกว่าจ้องจอ เ พ ร า ะความสัมพันธ์ในชีวิตจริงจะดีกว่าโลกเสมือนอย่ างแน่นอน
10 : หาเวลาทบทวนตัวเอง อยู่กับตัวเอง โดยไม่เข้าสื่อโซเชียล
กำหนดเวลา 1วันต่อสัปดาห์ ที่คุณจะสัญญา กับตัวเองว่า จะไม่สนใจสื่อโซเชียลใด ๆ อาจกำหนดเป็นวันอาทิตย์
“วันลืมโทรศัพท์” คุณจะไม่ถือมัน ไม่มองมัน และไม่มีมันอยู่ในชีวิต 1 วัน และถามตัวเองว่า อย ากใช้ชีวิตในการ
ทำอะไร ถ้าชีวิตนี้ไม่มีโลกออนไลน์แล้ว หากิจกรรมที่ชอบ ทำร่วมกับเพื่อน แฟน คนรัก ญาติ บุคคลในครอบครัว
ใช้เวลานี้ ทบทวนตัวเอง และสนุกกับชีวิตในโลกจริง อย่ างเต็มที่ เ พ ร า ะชีวิตคุณคือของจริง ไม่ใช่สิ่งสมมุติ
เหมือนในโลกออนไลน์
หวังว่าทั้ง 10 เคล็ดลับนี้ จะช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้นในชีวิต การใช้สื่อโซเชียลอย่ างถูกต้อง เหมาะสม
และพอดีกับชีวิตของคุณ นอกจากทำให้สุขภาพจิตดี คุณจะไม่เสียเวลาชีวิตไปกับเรื่องไร้ประโยชน์
สื่อโซเชียลมีเดียมีคุณค่ามากมาย