ทำเอาน้ำตาซึม เมื่อพ่อผู้แต่งตัวมอมแมมพูดจบ ทุกคนต่างปรบมือให้วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆที่ให้ข้อคิด สำหรับคนเป็นพ่อแม่
มาฝากกันค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เปิดเผยมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ โดยเป็นเรื่องราวที่ระบุว่า…ในงานประชุมผู้ปกครองโรง
เรียนแห่งหนึ่ง ผู้ปกครองต่างพากันทยอยเข้าประชุม แต่ละคนต่างแต่งตัวดูดี และดูเป็นทางการ ซึ่งผู้ปกครองแต่ละคนก็
พากันทยอยลงชื่อและเดินไปนั่งตามที่ที่ถูกจัดเอาไว้ให้เรียบร้อยเมื่อถึงกำหนดการ ครูใหญ่ก็ได้เริ่มเปิดประชุมผู้ปกครอง
และในขณะนั้นเองก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งรีบเร่งเข้ามาในที่ประชุม เขาไม่ได้แต่งตัวดูดีเหมือนพ่อแม่คนอื่นๆ แต่เขาใส่ชุด
ธรรมดาที่ดูจะเลอะไปด้วยฝุ่น และเศษปูน รวมถึงคราบดิน เหมือนกับว่าเพิ่งออกมาจากไซด์งานก่อสร้างเมื่อคุณครูเห็นก็
รีบเข้าไปทักทาย และถามว่า “สวัสดีค่ะคุณพ่อ ไม่ทราบว่าคุณพ่อเป็นผู้ปกครองของใครคะ?”ชายคนนั้นจึงหันกลับไป
ตอบด้วยความเคอะเขิน “เอ่อ.. ผมเป็นพ่อของหวังจื่อเหาครับ”คุณครูจึงพาเดินไปที่ลงทะเบียน และให้คุณพ่อเซ็นต์ชื่อ
เพื่อไปนั่งตามหมายเลขที่จัดไว้ให้แต่ชายคนนั้นก็พูดกลับไปว่า “ขอโทษนะครับคุณครู แต่ผมอ่านหนังสือไม่ออกครับ”
คุณครูจึงยิ้มให้ด้วยความจริงใจ และพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะลงชื่อให้ และจะพาไปนั่งที่เองค่ะ”เมื่อคุณครูลงชื่อ
แทนให้เรียบร้อยแล้ว ก็พาผู้ชายคนนั้นเดินไปที่นั่งของตัวเอง แต่กลับถูกสายตาผู้ปกครองหลายคนในห้องนั้นมองด้วย
ความ รั ง เ กี ย จ ที่แต่งตัวไม่สะอาดสะอ้าน และเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของผู้ปกครองคนอื่นๆ
จากนั้นครูใหญ่ก็ได้เชิญผู้ปกครอง 2-3 คน ขึ้นมาเล่าประสบการณ์ในการเลี้ยงดูและสอนลูกๆของตนเอง แต่ทุกคนก็มัก
จะพูดในทำนองเดียวกัน คือการสร้างกรอบให้ลูกทำตามสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดีกับตัวลูก อย่ างเช่น การจัดตารางให้ลูกท่อง
คำศัพท์วันละ 2 ชั่วโมง การให้ลูกเรียนพิเศษทุกวันหลังเลิกเรียน และเสาร์-อาทิตย์ และหากลูกไม่ทำตามก็จะตั ดค่า
ขนมของลูกและครูใหญ่ก็ได้ประกาศผลการเรียนของเทอมที่ผ่านมาให้กับผู้ปกครองทุกคนได้ทราบ จากนั้นก็ได้เชิญ
ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้คะแนนสูงที่สุดในชั้นเรียน มากล่าวคำแนะนำในการสอนลูกให้เรียนเก่ง มีประสิทธิภาพให้
คนอื่นๆได้ฟัง ครูใหญ่ได้เชิญ “หวังจื่อเหา” ขึ้นมาบนเวที และทุกคนก็ต่างแสดงความยินดีให้กับเขาที่สามารถทำคะแนน
ได้สูงที่สุด รวมถึงผู้ปกครองของหวังจื่อเหาขึ้นมาบนเวทีซึ่งผู้ปกครองของหวังจื่อเหา ก็คือ ผู้ชายที่แต่งตัวมอมแมมและ
คนอื่นพากันหัวเราะในตอนแรกเมื่อคนอื่นๆเห็นชายคนนี้ถูกเชิญให้ขึ้นไปก็ต่างตกใจเ พ ร า ะเขาเป็นคนไม่ได้เรียนหนังสือ
แต่ลูกชายของเขากลับทำคะแนนได้สูงที่สุดในชั้นเรียนผู้ชายคนนั้นจึงได้กล่าวคำแนะนำไปว่า “ผมไม่ใช่คนที่มีความรู้
อะไร จึงไม่รู้ว่าจะต้องแนะนำอะไรบ้าง แต่เวลาที่ลูกทำการบ้าน ผมมักจะนั่งอยู่ข้างๆและดูเขาทำ”
“ผมมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง รับจ้างเป็นวันๆ ซึ่งผมก็จะยุ่งมากในแต่ละวัน แต่เมื่อเลิกงาน ผมจะใช้เวลาอยู่กับลูกนั่งคุย
กับลูก เมื่อเขาทำการบ้านเสร็จ ผมก็จะชวนกินข้าว และหาอะไรให้เขาทานจนอิ่ม”“ลูกชายเคยถามผมว่า… พ่ออ่านหนังสือ
ไม่ออก แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมทำการบ้านถูกหรือผิด ผมจึงบอกลูกไปว่า พ่อไม่รู้หรอก แต่พ่อจะสังเกตดูว่า ถ้าวันไหนลูกทำ
เสร็จเร็ว แปลว่าการบ้านง่าย แต่ถ้าวันไหนเสร็จช้า แปลว่าการบ้านวันนั้นย าก แล้วผมก็จะหาของที่เขาชอบกินกับน้ำเย็นๆ
มาให้เขา ดื่ม เพื่อให้เขามีพลังในการทำการบ้านให้เสร็จ”
“ผมมักจะบอกลูกอยู่เสมอว่า ถ้าลูกอย ากจะมีชีวิตที่ดี อย ากจะมีบ้านสวยๆ มีรถขับ ลูกก็ต้องตั้งใจเรียน เ พ ร า ะพ่อไม่มี
ความรู้มากมายที่จะไปหางานดีๆ เงินเดือนสูงๆได้แล้ว พ่อมีแต่โอกาสให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียน เพื่อที่จะใช้เป็นใบเบิกทาง
ให้ลูกได้มีงานที่ดีในอนาคต และผมก็คงต้องขอบคุณคุณครูทุกท่านที่คอยสั่งสอนให้ความรู้กับลูกของผม จนทำให้เขามี
วันนี้ได้ครับ” เมื่อเขาพูดจบก็ก้มหัวคำนับคุณครูทุกคน และผู้ปกครองในห้องประชุมต่างพากันปรบมือให้กับชายคนนี้จน
เสียงดังลั่นห้อง
สิ่งที่พ่อของหวังจื่อเหาทำ เป็นสิ่งที่สำคัญที่พ่อแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญ นั่นคือการให้เวลากับลูก ใช้เวลาอยู่กับเขา
คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เพื่อให้เขารู้สึกมีกำลังใจและรู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างๆ ลูกๆจะรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง และเป็นแรงผลัก
ดันในการพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเงินทองอาจจะเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต อย่ าเลี้ยง
ลูกด้วยเงินอย่ างเดียว แต่ต้องใส่ใจดูแล ให้เวลาเขา ให้ความอบอุ่นกับเขาอย่ างเต็มที่ด้วยเช่นกัน เ พ ร า ะความรัก
ของพ่อแม่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกแล้ว