เมื่อต้องสูญเสียคนที่รักไป ความเศร้าโศกเสียใจย่อมต้องเกิดขึ้น แต่คนที่ยังอยู่จะมีวิธีรับมืออย่ างไรให้สามารถ
ดำเนินชีวิตต่อไปได้ ในบทความนี้มีวิธีรับมือจาก 5 ทฤษฎีการปรับตัวเมื่อเกิดความสูญเสีย (The 5 Stages of
Grieving) มาแนะนำ
ทฤษฎีการปรับตัวเมื่อเกิดความสูญเสีย – จิตวิทย าของความคิดถึง เมื่อคนรักจากไปอย่ างไม่มีวันกลับจิตใจ
ของเราจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น 5 แบบ เมื่อต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่ างไม่มีวันกลับ ได้แก่
ระยะที่ 1 ‘ตกใจและไม่เชื่อ’
เมื่อจิตใจเรารู้ว่าคนที่รักจากไป ในระยะแรก ๆ จะเกิดความรู้สึก ‘ตกใจ’ และ ‘ไม่เชื่อ’ อาจจะมีความรู้สึกงงๆ มึนๆ
อาการนี้สามารถเกิดขึ้นภายในเวลาเป็นชั่วโมงหรือหลายวัน
ระยะที่ 2 ‘โกรธแค้นและรู้สึกผิด’
‘ความโกรธ’ เป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่จะเกิดขึ้น จะรู้สึก ‘โกรธว่าทำไมต้องเป็นฉัน’ ‘รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลย’ โกรธไป
หมดทั้ง โกรธตัวเอง หมอ ครอบครัว เพื่อน โกรธคนที่เรารัก โกรธหลาย ๆ อย่ าง รวมทั้งมี ‘ความรู้สึกผิด’ ในใจ
จะย้อนกลับไปคืดเรื่องต่าง ๆ คิดว่า ‘ผิดที่ฉันยังไม่ได้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้’ ‘ผิดที่ฉันยังไม่ได้พูดอะไรกับคนที่เพิ่งจาก
ไป’ ‘ฉันน่าจะช่วยไม่ให้เขาจากไป’ (ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าที่จริงแล้วการเสียชีวิตอยู่นอกเหนือการควบคุม) ระยะนี้
จะรู้สึกประมาณ 2 สัปดาห์
ระยะที่ 3 ‘ต่อรอง’
มีปฏิกิริย า ‘ต่อรอง’ คุณอย ากจะขอเลื่อนเวลาออกไปเพื่อที่จะปรับปรุงวิถีชีวิตใหม่ เ พ ร า ะรู้สึกว่าถ้ามีเวลาอีก
หน่อยคุณจะทำมันได้ดีกว่านี้ คุณจะคิดว่า ‘ฉันจะยอมทำทุกอย่ างขอเพียงพรุ่งนี้ตื่นมาพบว่านี่เป็นแค่ฝันไม่ดี’
‘ฉันสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวแต่ได้โปรดให้เขามีชีวิตอยู่ต่ออีกสักระยะหนึ่ง’ ‘ถ้าเพียงวันนั้นฉันทำอย่ างนั้น’
ความคิดนี้จะวนเวียนเข้ามาในหัวคุณ
ระยะที่ 4 ‘ซึมเศร้า’
เป็นระยะที่จิตใจซึมเศร้า ไม่มีเรี่ยวแรง มีอาการแยกตนเอง พูดน้อยลง มองโลกในแง่ลบเบื่ออาหารนอนไม่หลับ
(หลายคน) อาจจะคิดอย ากจากไป จิตใจว่างเปล่า รู้สึกกระสับกระส่าย คิดถึงและถวิลหาผู้ที่จากไป อย ากพบ
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ทำให้ฟุ้งซ่าน ฝันไม่ดี บางคนรู้สึกว่าเขาพบคนที่เขารักและจากไปแล้วทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น
ถนน สวน รอบบ้าน ทุกที่ที่เขาเคยอยู่ด้วยกัน ระยะนี้อาจกินเวลานานประมาณ 4-6 สัปดาห์หลายคนอาจปล่อย
เวลาไปกับการนั่งนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไร ที่จริงแล้วเขากำลังคิดถึงผู้ที่จากไป ความคิดถึงนี้จะมีทั้งภาพความสุข
และภาพในด้านลบ ปรากฏการณ์นี้ดำเนินไปอย่ างเงียบ ๆ แต่เป็นส่วนที่จำเป็นในการทำใจ
ระยะที่ 5 ‘การยอมรับ’
ระยะนี้ถึงจุดที่เราสามารถยอมรับความเป็นจริงได้ และพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ก็อาจจะรู้สึกสุข
บ้างทุกข์บ้าง แต่จะสามารถวางใจให้เป็นกลางได้มากขึ้น มองอนาคตได้มากขึ้น สามารถอยู่กับความว่างเปล่า
ได้อย่ างไม่ทุรนทุร า ย นั่นคือ ภาพรวมของผู้ที่สามารถก้าวผ่านวิกฤตของความสูญเสีย
*ทั้ง 5 ระยะอาจเกิดแบบไม่มีลำดับ*
ระยะไหนเกิดก่อนก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นครบทุกขั้นตอน แต่ต้องลงท้ายด้วยการยอมรับได้เสมอ
คำแนะนำ สิ่งที่ต้องทำ เมื่อต้องพบการจากลา
พย าย ามประคองสติไว้ให้ดีที่สุด
สิ่ ง ที่ต้องทำอย่ างแรกสุด คือ การพย าย ามประคองสติไว้ให้ดีที่สุด พย าย ามอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันให้ได้
หากพบว่าตนเองเริ่มจะไม่ไหวการได้ระบายออกทางจิตใจไม่ว่าทางใดทางนึงจะทำให้เราคลายความทุกข์ใจไป
จำไว้ว่าการร้องไห้เป็นเรื่องปกติ
การร้องไห้เป็นเรื่องปกติ และเราสามารถเสียใจได้อย่ างเต็มที่ หากมีเพื่อนหรือผู้ที่ไว้ใจก็สามารถพูดระบาย
ความรุ้สึกได้ หรือจะใช้วิธีเขียนบันทึกเพื่อระบายความในใจก็ได้เช่นกัน
ไม่ควรอยู่คนเดียวให้มากนัก
ที่สำคัญคือ ไม่ควรอยู่คนเดียวให้มากนัก พย าย ามใช้เวลาอยู่กับเพื่อน หรือทำตัวให้ยุ่ง ๆ ไว้ก่อนในช่วงนี้
หากิจกรรมทำ เช่น เข้าวัด ฟังธรรม หรือการทำบุญใส่บาตร
ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบที่จะลืม
เ พ ร า ะโดยธรรมชาติของกลไกการเยียวย าทางจิต เมื่อเวลาผ่านไปความเจ็บปวดจะค่อย ๆ จางลงได้เอง
เราจะเริ่มคิดถึงสิ่งอื่น ๆ คิดถึงอนาคต อาจสามารถสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ หรือสนใจสิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
แต่ความรู้สึกสูญเสียและความคิดถึงจะยังคงอยู่
ใช้วิธีการคิดบวก
หนึ่งในวิธีการคิดที่จะช่วยให้จิตใจของอยู่ได้ โดยไม่เป็นทุกข์มากจนเกินไป คือการใช้วิธีการคิดบวก เช่น คิดว่า
เขาไปดีแล้ว, เขาไปในที่ๆ สบายกว่าเรา ไม่ต้องเจ็บปวดไม่ต้องทรมานอีกต่อไป, คิดว่าเขาหลับสบายแล้ว
หมดห่วงหมดกังวลแล้ว, คิดว่าเขาไปอยู่บนสวรรค์แล้ว หรือคิดว่าส่วนดีของเขาก็ยังคงอยู่ในใจเรา