ชีวิตของผมที่ผ่านมา….
เมื่อคราวผมอยู่กับภรรย า ก็ได้ออกทำงานเป็นพนักงานขายในห้างดัง
และทำให้ผมได้รู้จักพนักงานห้างคนนึง คน ๆ นั้นเขามีหนี้สินติดตัวเหมือนๆ
กับพนักงานคนอื่น ๆ นั่นแหละ ทั้งหนี้บัตรเครดิต ผ่อนของใช้ ซึ่งบางเดือน
ก็ไม่มีเงินเหลือให้ใช้เลยก็มี และเขาเล่าให้ผมฟังว่า…
ในปีแรก…เขาสร้างหนี้ ด้วยการผ่อนโทรศั พท์ที่อย ากได้ด้วยบั ตรเค รดิ ต
พอปีถัดมา…ในกระเป๋าตังค์เขา มีบัตรเครดิตมากกว่าสองใบ
ในช่วงระยะเวลา 4 ปี เขาทำงานใช้หนี้บั ตรเครดิตตลอด
และของที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก โทรศัพท์ เครื่องใช้ต่าง ๆ
และในวันนึงเขาอย ากมีชีวิตใหม่…
เลยได้ทิ้งบัตรเครดิต และทำการคืนรถยนต์ที่ผ่อนมานานเป็นปี
ออกจากห้องพักค่าเช่าเดือนละหกพัน ไปเช่าห้องเดือนละ 800 แทน
จากเคยกินสเต็ ก ชๅบู กินของบนห้างกับเพื่อนๆ ต่อมาเขาต้มไข่เพียง
1 ฟอง ละลายกับพริ ก น้ำป ล าไปทานที่ทำงาน ถึงบ้านก็กินลูกชิ้นไม้
เดียว และข้าวถุง 5 บาท น้ำกินใช้ตู้ยอดวันละบาท
ตอนนั้นเพื่อนในที่ทำงานเริ่มออกห่างจากเขา…
เพราะเขาไม่ได้กิน ใช้หรูหราเหมือนเมื่อก่อน
รถก็ไม่มีขับ เคยไปกินกับเพื่อนด้วยกันก็ไม่ไปกิน
และห่อข้าวไข่ต้มมาทำงาน กินน้ำฟรีในที่ทำงาน
ตกเย็นกลับบ้าน ทานลูกชิ้ นบ้าง มาม่าบ้าง
หรือไข่เจียว สลับกันวนกันไป
และคุณเชื่อไหมว่า เขาทำอย่ างนี้เป็นปี ๆ จริงๆ…
และจากนั้นคือ….เขามีเงินเก็บ 3-4 หมื่น จากที่เคยเป็นหนี้มากมาย
พอเดือนไหนได้ค่าคอมมาก ก็ได้เงินมาเก็บมากหน่อย
ไม่นำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนก่อน แต่เขาก็ยังคงใช้
ชีวิตแบบเดิม เพราะมันเป็นความเคยชินไปซะแล้ว
ห่อข้าวมากิน พักห้องเช่า ห้องน้ำรวม
แล้ววันนึงจุดเปลี่ยนชีวิตมาถึง…
เขาตากผ้าห่มไว้แล้วโ ด น ข โ ม ยไป เขาไม่ต้องการ
ซื้อผ้าห่ม ชุดเครื่องนอนด้วยเงินสด นั่นก็เพราะว่ารู้คุณค่า
ของเงินแล้ว เลยตั ดสินใจผ่อนผ้าห่มกับแขกเร่ขายผ้าแถว
บ้านเช่า ในราคา 1,500 ผ่อน สบายๆ 350 บาท / 10 เดือน
ก็ตกวันละ 10 กว่าบาท เท่านั้น เขาคิดว่ามันดีจริง ๆ
เลยตัดสินใจ ในคือนแรกที่ผ่อน และได้นอนใต้ผ้าห่มใหม่
ในใจก็คิดว่า ด อ กที่เราจ่ายไปมันเท่าตัวเลยนี่หว่า
แล้วเขาก็เกิดไอเดีย คิดได้ว่าหรือจะลองขายผ้าห่ม
เงินผ่อนให้เพื่อนร่วมงานดีมั้ยนะ เพราะพนักงานห้าง
ชอบผ่อนของ เค้าเลยไปร้านขายชุดเครื่องนอน เพื่อขอ
แค็ตตาล็อกชุดเครื่องนอนต่างๆ เอาไปขายให้เพื่อนที่ทำงาน
ในวันเดียวได้เป็นสิบๆ ชุด ดาวน์ 500 ผ่อน 300 บาท 10 เดือน
ต้น ทุ น 1500 ราคาหลายปีก่อน ได้กำไรเท่าบังเลย และก็ไปถึง
แผนกอื่น แล้วก็พากันมาผ่อน ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เขาขาย
ชุดเครื่องนอนในเพื่อนพนักงานนับร้อยชุด อาจมีหนีบ้าง โ ก งบ้าง
แต่คำนวณแล้วก็ยังกำไรอยู่
จากที่เป็นหนี้เยอะแยะ ทุกวันนี้แม้ระดับผู้จัดการก็มาขอกู้เงิน
เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้ชีวิตสะดวกสบาย ทั้งยังได้
กลับมาดาวน์บ้าน ได้ผ่อนรถคันใหม่ และยังคงทำตัวเรียบง่าย
ใช้จ่ายแบบเดิม ห่อข้าวมากินแต่อาหารดีกว่าเดิม กินน้ำฟรีของห้าง
และต่อมา…ก็รับผ่อน สินค้า หลายรายการให้กับเพื่อนๆ ที่ทำงาน
ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องนอนแล้ว จากเป็นหนี้จนกลายเป็นมีเก็บหลักแสน
จงจำไว้ว่า…เราจงประหยัดและใช้ชีวิตอย่ างพอดี ใคร ๆ ก็สามารถทำได้
อย่ าสนว่าใครจะนินทา ใครจะไม่คบเรา ให้เราโฟกั สที่เป้าหมายเป็นพอ
อะไรที่ไม่จำเป็นในชีวิต ก็ตั ดออกไปบ้าง แล้ววันนี้ถ้าคุณซื้อแต่ของที่
อย ากได้เพื่อเอามาอวดใครต่อใคร สักวันคุณเองนั่นแหละที่จะต้องขาย
ของที่จำ เป็นเพื่อคงฐานะตนเองเอาไว้ ฝากให้คิด
ชีวิตคนเรามีขึ้น มีล งอยู่ที่การปฎิบัติต่อตัวเอง ..
ชีวิตมีขึ้น มีลง วันนี้สูงส่ง พรุ่งนี้อาจตกต่ำ ก็เป็นได้…
จงอย่ าได้ดูถู กเหยี ยบย่ำซ้ำเติม ใคร ๆ
เมื่อเห็นใครก็ตาม ที่เขาต ก ทุ กข์ ได้ย าก
ให้เม ต ตา และส ง ส ารเขา ถ้าเราช่วยเหลือ
พวกเขาไม่ได้ แค่ให้กำลังใจก็ได้บุญแล้ว
ขอขอบคุณ : สิริทั ศน์ สมเสงี่ ยม