บางครั้งเราแค่ใส่ใจคนรอบข้างมีสติในการใช้ชีวิตจะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้
1 : คิดมากไปหรือเปล่า
อ า การคิดมากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเครียดได้ ยิ่งอากาศร้อนๆ ยิ่งเหตุการณ์
อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนรน เมื่อเกิดเรื่องก็จะยิ่งเก็บมาคิดจนไม่เป็น
อันกินอันนอน ลองเปลี่ยนจากความคิดเรื่องแย่ ๆ เปลี่ยนเป็นคิดเรื่องดี ๆ บ้างสิครับ
เ พ ร า ะ ค ว า มคิดนั้นเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของเรา ไม่เชื่อลองทำดู คิดดี ทำดี
เท่านี้พอ
2 : ไม่หนีแต่ไม่ประทะ
ห า ก เ ราไม่สามารถจะทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ แต่จะเก็บเอาไว้ก็กลัว
จะกลายเป็นคนเก็บกดจะเดินหนีก็จะกลายเป็นคนไม่ยอมรับความจริงหากเกิดเหตุการณ์
แ บ บ นี้คงต้องใช้สติที่รอบคอบตัดสินใจในการแก้ปัญหา รับฟังสิ่งที่ผู้อื่นว่ามา แล้วก็นำ
ไปปรับปรุงในส่วนที่ไม่ดีหากแต่เป็นสิ่งที่เขาพูดพร่ำเพรื่อก็ไม่ต้องกังวลให้เสียเวลาเลิก
คิ ด ไ ป เ ลยไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำด้วย เ พ ร า ะการทำเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลดี
อะไรขึ้นมาเลย
3 : เดินอย่ างมีสติ
เดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่ าง ขอบคุณร่างกายที่ยังมีกำลังมาก
พอให้สามารถเดินได้ ขอบคุณถนนหนทางที่สะดวกสบายมากพอจนเดินก้าวไปได้และ
เดินด้วยใจกรุณาด้วยความรู้สึกว่า “ อย ากสร้างแต่รอยย่ำอันงดงามให้กับโลกใบนี้ ”
4 : ตื่นอย่ างมีสติ
แทนที่จะตื่นมาแล้วเช็คข่าวสารจากโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งแรกของวัน ให้เวลาตัวเองซัก
5-10 นาที นั่งสมาธินิ่งๆ ก่อนจะรับข่าวสารอื่นๆ เพื่อช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่เป็นไป
อย่ างมั่นคงในอารมณ์
5 : กินอย่ างมีสติ
บางครั้งเราก็ทานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย บางครั้งก็ทานไปด้วยดูจอทีวี จอมือถือ
ไปด้วย แล้วครั้งสุดท้ายที่ทานอาหารทีละคำรับรสชาติ แล้วขอบคุณอาหารในมื้อนั้น
คือเมื่อไหร่กันหรือ ?
6 : สนทนาอย่ างมีสติ
ฟั ง อย่ างตั้งใจ ฟังโดยไม่คิดตัดสินคู่สนทนา เปลี่ยนสภาพตัวเองให้เป็นเหมือนภาชนะ
ว่างเปล่าที่พร้อมรับฟังบุคคลตรงหน้าขณะที่เมื่อพูดก็ตระหนักถึงความงดงามของความ
สั มพันธ์ระหว่างคุณและคู่สนทนา สื่อสารด้วยความรัก ด้วยความหวังดีด้วยใจที่อย าก
จะสร้างสรรค์ความหมายดีๆ ระหว่างกัน
7 : ทำงานอย่ างมีสติ
ท่ามกลางมรสุมงาน และการติดต่อผู้คนมากมายตลอดวัน เราก็สามารถฝึกสติรู้เนื้อรู้ตัว
ได้ง่ายๆ เพียงหลับตาลงหายใจเข้าและออกลึกๆสัก5 รอบลมหายใจ โดยให้สติตาม
ลมหายใจโดยไม่คิดเรื่องอื่น แล้วค่อยกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้าใหม่อีกครั้ง
8 : ปล่อยวาง ไม่ยึดติด
ปัญหาที่เกิดขึ้นนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเ พ ร า ะคนเรามีอัตตามากเกินไป หากเราลอง
เปลี่ยนความคิด ไม่ยึดติดกับตัวตนแล้วลองคิดว่าสุดท้ายวันหนึ่งเราก็ต้องแตกดับและ
สลายไป วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไปเ พ ร า ะฉะนั้นถ้าเรายอมรับกับวัฏจักรแห่ง
การเกิด-ดับนี้แล้ว ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็คงเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
9 : เข้าหูซ้ายทะลุหุขวา
อย่ าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับเ พ ร า ะปกติแล้ว คำว่า “ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา” นั้นเขาใช้เปรียบ
เ ป ร ย ค นที่ฟังอะไรแล้วไม่สนใจไม่ใส่ใจ ไม่รับความคิดใหม่ๆเข้ามาแต่ตอนนี้ผมกำลัง
หมายถึง ถ้าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว การฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวานั้นนับเป็นเรื่องที่
ดี เ พ ร า ะจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ใครกล่าวมา
10 : ยิ้มแห่งสย าม
รอ ย ยิ้ ม ส ร้ างโลกนี้ให้สดใสได้ เหมือนดังคำที่บอกว่า “ถ้าคุณยิ้ม โลกก็จะยิ้มให้คุณ”
เพียงแค่คุณไปไหนแล้วมีแต่รอยยิ้มให้คนรอบข้าง คนรอบข้างก็จะอารมณ์ดีขึ้นไปด้วย
11 : ฝึกสมาธิ
การฝึกสมาธิให้ใจสงบนั้นมีหลายรูปแบบ จะนั่งสมาธิหรือเดินสมาธิก็ได้ อย่ างที่ผมเคย
เ ขี ย น ในเล่มก่อน ๆ ว่าเมื่อมีสมาธิก็มีสติ เมื่อมีสติก็เกิดปัญญา เวลาเกิดปัญหาก็จะมี
ทางแก้ไข
12 : นับหนึ่งให้ถึงสิบ
เริ่มจากวิธีพื้นฐานอย่ างนับเลขในใจ เวลาที่เราโกรธใครให้ลองนับหนึ่งถึงสิบ หรือจะ
นับถึงร้อยถึงพันก็คงไม่มีใครว่าเ พ ร า ะการนับเลขจะส่งผลให้เรามีสมาธิ และ ยังได้
มีเวลาไตร่ตรองคิดถึงสิ่งที่ผู้อื่นทำกับเรา และสิ่งที่เรากำลังคิดจะทำด้วย
13 : รู้เขารู้เรา
บ า งครั้งแค่เราลองมองใส่ใจนิสัยของคนรอบข้างบ้าง ก็สามารถที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกัน
ในสังคมได้อย่ างไม่ย ากเย็นแต่เราจะต้องรู้จักระงับสติอารมณ์ของเราด้วย เ พ ร า ะเมื่อ
เราทราบแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้ หากเรารับนิสัยเขาไม่ได้ก็ให้อยู่ห่าง ๆ เข้าไว้เป็นดี
ที่สุด จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมีราวกัน
14 : ขอโทษ หากเราทำผิด
ก ารใช้คำว่าขอโทษนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด ไม่ใช่เรื่องย ากเลย ถ้าเราจะต้องเอ่ย
คำขอโทษ เ พ ร า ะคำๆ นี้ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของเราตกต่ำลงหากแต่เป็นการรู้จักยอม
รั บ ใ นสิ่งที่ตนเองผิดต่างหาก อีกทั้งยังจะทำให้สถานการณ์ที่เ ล วนั้นคลี่คลายลงได้
อย่ างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้คำขอโทษอย่ างพร่ำเพรื่อเ พ ร า ะจะทำให้ติดเป็นนิสัย
ที่ไม่ดี ทำอะไรก็
ไม่ระมัดระวัง
15 : หายใจเข้า-ออกลึกๆ
การหายใจเข้าออกลึกๆ นานๆ จะทำให้เราได้มีสติยั้งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทำ
ให้ร่างกายเราได้รับการผ่อนคลายจากลมหายใจที่รับเข้าและส่งออกดังนั้นก่อนที่จะ
ตัดสินใจทำอะไรลงไปในช่วงเวลาที่มีอารมณ์โกรธ ลองหายใจลึกๆเข้า ออก อย่ าง
ช้าๆ จะช่วยให้สถานการณ์รอบข้างดีขึ้น