1 : คนเหล่านี้เป็นคนที่… มีเงิ น เข้าถึงทรัพย ากร และมีเครือข่ายอุปถัมภ์ที่มากกว่าคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้
อาจจะทำให้เขาประสบความสำเร็จขึ้นมา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีความรู้ หรือความสามารถอะไรมากนัก จริงๆ แล้วถ้าเขามีความรู้
และความสามารถมากสักหน่อยความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันอาจจะมากกว่าความสำเร็จที่เขามีอยู่ในมือตอนนี้
ได้ความได้เปรียบทางสังคมของเขานี่เองเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาดเหนือใครไงล่ะครับ
การคิดเสียว่า คนที่ชอบดูถูกคนอื่น เป็นพวกที่ไร้สติปัญญา ไม่มีสมอง มันก็พอที่จะปลอบใจตัวเองได้บ้างครับ
แต่ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เป็นรูปธรรมเลย กับการที่พอเราถูกเขาดูถูกมา ถูกเขาหัวเราะเย าะมาเราก็แอบด่าเขากลับ
เพื่อให้ตัวเองสบายใจไปวันๆ โอเค!มันทำให้เราสบายใจขึ้นแต่ว่ามันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นรึเปล่า ก็เปล่าใช่ไหมครับ
ผมว่าบางทีคนที่มีความสามารถและสติปัญญาที่ดีกว่า ก็สมควรนะครับ ที่จะถูกคนที่ด้ อ ยกว่าดูถูกหรือหัวเราะเยาะ
2 : คนเหล่านี้เป็นคนที่… เอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง มองคนที่คิดต่างจากเขาเป็นคนโ ง่ไปเสียทั้งหมด
และมักจะให้ราคากับ คนสอพลอที่เออออกับเขาโดยไม่ได้คิดไม่ได้ไตร่ตรองอะไรเลยทำให้เขาหลงลำพอง
ยึดมั่นถือมั่นกับชุดความคิดบิดเบี้ยว โดยที่ไม่เฉลียวใจว่าตนเองต่างหากที่เป็นคนที่เข้าใจผิดๆมาโดยตลอด
การมั่นใจในสิ่งผิดๆ เป็นระยะเวลาอันย าวนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนเมามันก็ทำให้หลงตัวเอง
เผลอทะนงคิดว่าตนเองเป็นคนฉลาด ได้ อ ยู่เหมือนกันนะครับ
3 : คนเหล่านี้เป็นคนที่… ไม่ยอมเปิดรับมุมมองอะไรใหม่ๆ ไม่ชอบเรียนรู้อะไรด้วยตนเอง ยึดมั่นถือมั่น
กับชุดความรู้ที่เคยเรียนมาเมื่อ นานมาแล้ว ยึดติดกับวิธีการเดิมๆ ที่เคยทำให้ตนเองประสบความสำเร็จในอดีต
คือชุดความรู้เดิมๆ มันไม่ใช่ว่าผิดหรอกนะครับ มันอาจจะถูก แต่มันถูกในอดีต แต่มันไม่ถูกอีกต่อไปแล้วในปัจจุบัน
และมันอาจจะยิ่งผิดมากขึ้นไปเรื่อยๆ สำหรับอนาคตถ้าเราเป็นคนที่ยึดติดกับความรู้เดิมๆความสำเร็จเก่าๆ แบบลืมหูลืมตา
จนตามโลกใบนี้ไม่ทัน เวลาที่เราฟังแนวคิดอะไรใหม่ๆที่เราไม่เข้าใจเราก็อาจด่วนพิพากษาว่าคนที่พูดเสนอแนวคิดใหม่ๆ
นั้นเป็นคนโ ง่ เขากำลังพูดเรื่องโ ง่ๆ อยู่ก็ได้ ทั้งที่จริงๆ แล้วสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ มันเป็นความรู้ที่ทันสมัยกว่า สิ่งที่เรารู้
เพียงแต่เราไม่มีสติปัญญาที่มากพอที่จะฟังสิ่งที่เขาพูดได้เข้าใจ ก็เท่านั้นเอง
“..ข้อคิดในการรับมือพวกชอบดูถูกคน..”
2 : คนที่ฉลาด และเก่งจริงๆ… ใครที่ไหน เขานั่งเฉยๆ ให้คนอื่นเขาเย าะเย้ยตามรูปที่ผมเอามาประกอบครับ
คนที่เก่งและมีความสามารถจริง เขาต้อง ลุกขึ้นมาลงมือทำลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตนเองคิดดีแล้วว่ามันถูกต้องอย่ างสุด
ความสามารถ อย่ างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พร้อมที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดในการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง
แบบไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆไม่มีรถ ก็วิ่ง วิ่งไม่ได้ก็เดินเดินไม่ได้ก็คลาน ผมรู้ครับว่ามันเหนื่อย และบางครั้งเวลาที่เราเปรียบเทียบ
กับคนด้ อยสติปัญญา บางคนที่มี เ งิ น มากกว่าเรารู้จักคนมากกว่าเรา อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบเราทุกอย่ าง เราอาจจะท้อบ้าง
รู้สึกน้อยใจในวาสนาของตัวเองบ้าง ว่าทำไมเราถึงไม่มี เ งิ น ไม่มีใครมาช่วยมากมายแบบคนๆ นั้น คือ คุณท้อได้ครับน้อยใจได้ครับ
แต่ต้องลืมมันให้เร็วที่สุดให้ได้แล้วมาลุยสู้ต่อถ้าคุณเป็นคนที่คิดน้อยใจ แล้วท้อแท้ยอมแพ้ เลิกล้มความตั้งใจ
นั่นก็แสดงว่าคุณเป็นคนที่สมควรให้คนอื่นดูถูกจริงๆ นั่นแหละครับ คนที่จะได้รับการยอมรับว่าเก่งจริง จะต้องเป็นคนที่เก่งที่จะเอาชนะ
อุปสรรคเก่งที่จะอดทนต่อสู้ไม่ยอมแพ้ เก่งที่จะเผชิญหน้ากับข้อจำกัดทุกอย่ างครับ ไม่มีอะไรที่จะหยุดให้เขาไม่ลงมือทำได้ครับ
ภาพๆ นี้ หากดูเพียงแค่ผิวเผินมันอาจจะสะท้อนในชั่นแรกว่า คนที่ด้ อ ยสติปัญญา มักจะมีนิสัยชอบดูถูกคนอื่นซึ่งมันก็จริงอยู่บ้างครับ
แต่ผมอย ากให้เรามองให้ลึกไปอีกขั้นหนึ่งว่า คนที่ใส่ใจกับคำดูถูกและเสียงหัวเราะเย าะของคนอื่น จนไม่ยอมลงมือทำอะไร
ต่อให้คนๆ นั้นมีสติปัญญามันก็ไม่มีความหมายครับ และก็สมควรแล้วที่จะถูกคนห่วยๆ ดูถูก ครับ
1 : คนที่ฉลาด และเก่งจริงๆ… จะไปใส่ใจกับคำค่อนขอด คำดูถูก หรือเสียงหัวเราะเย าะของคน
ที่ด้ อยสติปัญญาทำไมกันครับ ถ้าคุณแคร์พฤติก ร ร มแย่ๆ ของคนเหล่านี้ นั่นไม่เท่ากับว่าคุณยอมรับว่าตัวเองเป็นคนห่วย
อย่ างที่เขาดูถูกกันหรอกหรือครับคนที่มีความสามารถที่แท้จริง ต้องพิจารณาได้ครับว่าอะไรเป็นความคิดต่างที่มีคุณค่า
และเราควรจะต้องฉุกคิดรับฟังอะไรเป็นคำค่อนขอดที่เราไม่ควรไปให้ราคาอะไรเป็นความคิดเห็นสนับสนุนที่เราสามารถ
นำไปขย ายผลในสิ่งที่เราทำให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นและอะไรเป็นแค่การประจบสอพลอที่เปล่าประโยชน์ ที่เราควรจะลืมให้เร็วที่สุด
ถ้าคุณปล่อยให้คุณค่าของตัวคุณเองลดลงเพียงเพราะไปใส่ใจกับคำพูดดูถูกของคนที่ด้อ ยสติปัญญา
คุณก็สมควรที่จะถูกดูถูกแล้วล่ะครับ