1 : เรื่อง “..อดทน..”
เด็กสาวคนหนึ่งวิ่งขึ้นรถไฟสปรินเตอร์ แต่ปรากฏว่ามีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่งของเธอ เธอหยิบตั๋วรถขึ้นมา
แล้วพูดกับผู้ชายคนนั้นด้วยความสุภาพว่า “คุณคะ คุณนั่งผิดที่แล้วค่ะ” ชายคนนั้นตะวาดเธอกลับ
แล้วหยิบตั๋วของเขาให้เธอดู “ดูให้ดี ๆ นี่มันที่นั่งของฉัน ตาเธอไม่บอดใช่ไหม ?” เมื่อเด็กสาว
มองดูตั๋วของผู้ชายคนนั้น ก็ไม่พูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบแล้วเดินไปยืนอยู่ท้ายขบวน จากนั้นไม่นาน..
รถไฟก็แล่นออกจากชานชาลา พอเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วเดินมาถึงชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียง
ของเจ้าหน้าที่ดังขึ้นว่า “คุณขึ้นขบวนผิดครับ รถขบวนนี้ไปเชียงใหม่ ไม่ได้ไปอุบลนะครับ”
มีการรออยู่อย่างหนึ่ง เรียกว่ารอให้กลับใจก็ไม่ทันเวลาเสียแล้วจำไว้นะ หากการคำรามฮึ่มๆ
มันแก้ปัญหาได้ ป่านนี้แพะและลามันก็คงควบคุมโลกใบนี้ไว้แล้ว
2 : เรื่อง “..ลุ่มลึก..”
เมื่อครู่ตอนอยู่ในลิฟต์ ฉันเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังกินไอศครีม ด้วยความเป็นห่วง
ก็เลยบอกเด็กน้อยไปว่า “หนูจ๊ะ อากาศหนาวขนาดนี้ กินไอศครีมไม่ดีต่อร่างกายนะจ๊ะ”
เด็กน้อยหันมามองฉันแล้วบอกว่า “คุณย่าของผมอายุยืนถึง 103 ปี”
“โห…เพราะกินไอศครีมใช่ไหม ?” ฉันถามด้วยความสงสัย
“เปล่าครับ เพราะย่าไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้านครับ” ช่างลุ่มลึกยิ่งนัก ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า
ทำไมฉันจึงแก่เร็วนัก เพราะฉันยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเกินไปนั่นเอง
3 : เรื่อง “..ใจหายใจคว่ำ..”
ช่วงนี้กลุ่มมิจฉาชีพออกอาละวาด จนชาวบ้านกินอยู่ไม่เป็นสุข เมื่อครู่นักข่าวช่องดังเพิ่งรายงานข่าวว่า..
มีชายคนหนึ่งถูกขโมยเงินไปจากบัญชีหลายแสนบาท ฉันรีบปั่นจักรยานไปธนาคาร
เมื่อถึงธนาคารฉันรีบตรงไปที่ตู้เอทีเอ็ม เสียบการ์ดและกดรหัสเป็นที่เรียบร้อย
“โล่งอกไปที เงิน 8 บาทยังอยู่ดี ไม่มีใครขโมย” ฉันถอนหายใจรู้สึกโล่งใจ ไอ้พวกนี้นิสัยไม่ดีจริงๆ เลย
ทำเอาฉันใจหายใจคว่ำ พอฉันเดินออกจากตู้เอทีเอ็ม หัวใจก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“เงิน 8 บาทไม่หาย แต่ตอนนี้รถจักรยานของฉันหายไปเสียแล้ว”
เรื่องบางเรื่อง อย่าตื่นตระหนกตกใจจนเกินเหตุ
4 : เรื่อง “.. ใจร่ม ๆ..”
เมื่อเช้า แม่ใหญ่ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ก็เจอตาแก่คนหนึ่งกำลังวาดอักษรตัวใหญ่
ลงบนพื้น ด้วยความอยากรู้ แม่ใหญ่เลยเข้าไปดูใกล้ ๆ ตาแก่มองมาที่แม่ใหญ่
แล้วก็ลงมือเขียนตัวอักษร“มอง”
แม่ใหญ่คิดในใจ “ตาแก่นี่หาเรื่องซะแล้ว” แต่ก็ทำใจร่ม ๆ รอดูต่อไปว่าตาแก่จะเขียนอะไรต่อ
ก่อนที่จะเขียนคำต่อไป ตาแก่ก็มองมายังแม่ใหญ่อีกรอบ แล้วก็เขียนคำว่า “อะไร” ลงไปที่พื้น
แค่นั้นแหละ แม่ใหญ่ก็เดินเข้าไปถีบตาแก่จนล้มไม่เป็นท่า
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณตา” ตำรวจถาม “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมกำลังจะเขียนเพลงมองอะไร
เพื่อใช้ในงานลีลาศคืนนี้ เขียนประโยคแรกยังไม่ทันเสร็จ ยายแก่บ้าคนนี้ก็เข้ามาถีบผมจนล้มคว่ำ”
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใจร่มๆ อย่าเพิ่งตัดสินทำอะไร หากเรื่องมันยังไม่ทันเฉลย