การสอนลูก หรืออบรมให้เขาเป็นเด็ กที่มีพฤติกร ร มที่ดีและเหมาะสมกับเขานั้น
ส่สนมากการเลี้ยงลูกมักจะมาคู่กับการดุลูก เพราะการที่พ่อแม่ดุก็เพื่อให้ลูกของ
เรานั้นเกิดการเรียนรู้ จดจำ และนำไปแก้ไขต่อไปได้ ดุเพื่อให้ลูกเข้าใจในสิ่งนั้น ๆ
แต่การดุ การตำหนิลูกนั้นหากมันไม่ถูกวิธี จะส่งผลให้ลูกสู ญเสี ยความมั่นใจใน
ตนเอง ทั้งยังลดคุณภาพความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อีกด้วย ทางที่ดี หากคุณ
พ่อคุณแม่จำเป็นต้องดุ หรือต้องตักเตือนลูก ก็ต้องมีวิธีทำอย่ างเหมาะสมด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกๆ เชื่อฟัง รวมไปถึงไม่ทำร้ า ยจิ ต ใ จลูกด้วย และวันนี้เรามีวิธี
การสอนลูกยังไงให้เขานั้นเชื่อฟังเรา และไม่ต่อต้านเรา
1. อย่ าดุเขาตอนที่เรากำลังหงุ ดห งิด
เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาจะรู้สึกแ ย่กับความหงุดหงิด
ของพ่อแม่ไปด้วย ดังนั้น หากเรารู้สึกว่ากำลังหงุ ดหงิ ดอยู่
ก็จงบอกกับเขาไปว่า..ตอนนี้แม่ กำลังหงุ ดหงิ ดมากเลยนะ
เดี๋ยวพอหายแล้ว แม่จะมาคุยเรื่องนี้กับห นูอีกทีนะลูก ….
การทำเช่นนี้นั้น นอกจากลูกจะไม่ต้องรองรับอารมณ์ของ
คุณแม่แล้ว ลูกยังได้เรียนรู้การจัดการกับความโก ร ธด้วยนะ
2. รับฟังเหตุผล ความคิดเห็นในมุมของลูก
เราคนที่เป็นพ่อแม่ ก็อย่ ารีบตัดสินหรือตำหนิลูกเลยในทันที
โดยที่ไม่เปิดใจรับฟังอะไรจากลูกเลย เพราะมันจะทำให้ลูก
รู้สึกต่อต้ า นและไม่อย ากอธิบายให้คุณฟังแล้ว ทางที่ดีนั้น
คุณควรใช้วิธีพูดคุยและถามลูกว่า ถ้าเกิดทำผิ ดซ้ำ ๆ แล้ว
จะมีวิธีการเตือน หรือการลงโท ษเขายังไงบ้าง เพื่อให้ลูก
คิดถึงผลเสี ยและรับผิดชอบในความผิดของตัวเองด้วย
3. อย่ าดุลูกต่อหน้าคนอื่น
การทำเช่นนั้นมันจะทำให้ลูกเสี ยหน้า เขาจะไม่มีความมั่นใจ
รู้สึกอาย และคิดว่าพ่อแม่ไม่ให้เกียรติ และยังทำให้ลูกรู้สึกว่า
คำสอนของพ่อแม่ไม่มีความหมายอะไรเลย ลูกก็จะไม่รับฟัง
ในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่คอยพร่ำสอน แม้ว่าจะเป็นคำสอนที่ดี
แค่ไหนก็ตาม ลูกก็จะไม่สนใจ
4. ตำหนิที่การกระทำ ไม่ใช่ที่ตัวของเขา
พ่อแม่ควรตำหนิที่การกระทำของลูก ๆ จะดีกว่านะ ไม่ใช่ว่า
ตำหนิที่ตัวลูก อย่ างเช่น แม่ไม่ชอบที่ลูกแกล้ งน้อง ทำให้
ลูกรับรู้ว่าการกระทำเช่นนี้นั้นพ่อแม่ไม่ได้ชอบและไม่ยอมรับ
จงปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นซะ และในทางกลับกันนั้น ถ้าพ่อแม่ตำ
หนิที่ตัวลูกไปเลยตรงๆ เช่น “ ทำไมเ ก เ ร แบบนี้ล่ะ ” หรือ
“ลู ก แ ย่มากนะ ที่พูดจาเช่นนี้ ” อย่ างนี้จะส่งผลให้ลูกนั้น
รู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักตัวเอง ลูกจะคิดว่าตัวเองเป็นเด็ กไม่ดี
ไม่มีคุณค่าในตัวเอง ท้อแท้ เสี ยความมั่นใจ และไม่อย าก
ปรับปรุงตัวเองและอาจจะเตลิดไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร
5. หากดุแล้วก็บอกสิ่งที่อย ากให้ลูกทำด้วย
เช่น เมื่อลูกคนพี่ไปตีน้อง แทนที่พ่อแม่จะบอกกับลูกว่า
ห้ ามตีน้องนะ ให้เปลี่ยนมาเป็นบอกทางแก้ปัญหาให้ลูกจะ
ดีกว่า เช่น “ ลูกไม่จำเป็นต้องตีน้อง จากนี้ไปหากน้องทำ
อะไร ให้ไม่พอใจ มาบอกพ่อกับแม่นะ ” เพราะการห้ ามลูก
โดยไม่บอกวิธีหากลูกไม่พอใจน้อง ก็จะเป็นแบบเดิมอีก