คลายเครียดสักนิด…กับ 7 ทริคง่าย ๆ
ช่วงนี้เพื่อน ๆ คงเครียดทั้งจากกลัวติดไวรัสโควิด และจากเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่สามารถทำมาหากินได้… รู้ตัวอีกที
ก็ได้รับผลกระทบจากสารพัดโรคที่มีสาเหตุมาจากโรคเครียดซะแล้ว เช่น โรคกระเพาะ โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า เป็นต้น
วันนี้ เราเลยมี 7 ทริค ง่าย ๆ มาคลายเครียดให้เพื่อน ๆ กันค่ะ
แบบที่ 1 เลือกดูข่าวเป็นช่วงเวลา
เ พ ร า ะทุกวันนี้ก็จะมีแต่ข่าวหนัก ๆ ซ้ำ ๆ แถมยังมีเฟคนิวส์มากมาย ส่งผลให้เพื่อน ๆ เครียดตลอดเวลา ฉะนั้นเพื่อน ๆ ควร
เลือกดูข่าวเป็นช่วงเวลา เช่นวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น หลังอาหารครั้งละชั่วโมงก็พอ เพื่อนำเวลาที่เหลือไปรีแล็กซ์
แบบที่ 2 ทำในสิ่งที่อย ากทำ
หาความสุขจากการทำในสิ่งที่ชอบแทนที่จะปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับปัญหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ จนกลายเป็นภาวะเครียดสะสม
พย าย ามหากิจกรรมสร้างฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน (Endorphine) หรือฮอร์โมนแห่งความสุขมาต่อสู้กับเจ้าฮอร์โมนคอร์
ติซอล เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง วาดภาพ ฯลฯ นะจ๊ะ
แบบที่ 3 ตลกบริโภค
ข้อนี้สาว ๆ ถนัด ..กินแก้เครียด แต่ต้องเลือกของที่ควรกินด้วยนะคะ เช่น ปลา สัตว์ปีก, ธัญพืชไม่ขัดขาว, ไข่, ถั่ว, นม,
พืชตระกูลถั่ว, และผักใบเขียว ที่จะช่วยรักษาระดับพลังงานที่สูญเสียไปจากอาการเครียดทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
และรู้สึกได้ว่ามีอาการอ่อนเพลียน้อยลง การรับประทานอาหารก็ช่วยลดอาการเครียดลดความเศร้าหมองและทำให้
อารมณ์ดีได้มากขึ้นอีกด้วย
แบบที่ 4 ฝึกจิตใจ
ผู้ที่มีอาการเครียดและวิตกกังวล ควรฝึกจิตใจ เพื่อปรับพฤติกรรมและคลายความกังวลจากอาการดังกล่าว เช่น การฝึก
ควบคุมการหายใจ การฝึกโยคะหรือรำไทเก๊ก การฝึกนั่งสมาธิ ฯลฯ ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะช่วยทำให้จิตใจเกิดความสงบ
มีสติ และรับมือกับความวิตกกังวลในจิตใจได้ดีมากขึ้น
แบบที่ 5 กอด
การสัมผัสนับเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยในการบำบัดความเครียดที่ได้ผล เนื่องจากจะช่วยผลิตสารอ็อกซิโทซิน (Oxytocin)
ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเครียด สร้างความสุข และเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวผู้ให้และผู้รับได้มากเป็นพิเศษ ทำให้การ
กอดเปรียบเสมือนเป็น าทางใจที่ทำให้ร่างกายและจิตใจมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ง่ายๆ โดยวิธีการกอดในแต่ละแบบก็สร้าง
ความรู้สึกดี ๆ ที่แตกต่างกันได้
แบบที่ 6 บริหารร่างกาย
ถ้าไม่อย ากเหงื่อออกมากก็แค่ลองขยับ ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายด้วยท่าออกกำลังกายต่าง ๆ ที่สามารถทำในที่ทำงานได้
เช่น ท่าบริหารกล้ามเนื้อไหล่ ท่าบริหารต้นคอ ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อขา ฯลฯ ซึ่งการออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยท่าการ
บริหารเหล่านี้จะช่วยทำให้อาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรมบรรเทาลงได้ในระดับหนึ่ง
แบบที่ 7 เปลี่ยนบรรย ากาศ
การปรับเปลี่ยนบรรย ากาศรอบตัวให้มีสมาธิและผ่อนคลายจากความเครียดได้จริง ความเป็นธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ
เสียง หรือกลิ่นก็ควรที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความผ่อนคลายทั้งสิ้น เติมเต็มความสุขให้คนทำงานได้ด้วยกลิ่นกาแฟหอม ๆ
เปิดเพลงคลอเบา ๆ และแสงไฟที่เน้นความเป็นธรรมชาติซึ่งเหมาะสมสำหรับคนทำงานได้มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ