1 : สถานการณ์ครั้งแรกในชีวิต การทำอะไรๆครั้งแรก ไม่ควรออกตัวแรงเกินไปนะ
ถ้าเรายังไม่รู้บริบทนั้นๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นหน้าอินทร์ หน้าพรม
เพราะงั้นการอ่อนโยนเป็นสิ่งที่พึงทำไว้
2 : เมื่อต้องการสร้างเมตตามหานิยม การเลิกคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ทำตัวให้เล็กๆบ้าง บางครั้งอาจจะทำให้คุณดูน่าเอ็นดูมากกว่าทำตนให้มีอำนาจบาตรใหญ่
3 : จิตวิทย าพัฒนาตนทีละสเต็ป ปล่อยของหมดแม็กซ์แบบตู้มเดียว ไม่ได้ดูดี
เท่ากับหยอดละนิด ไปทีละขั้น มันแสดงว่าคุณควรรู้จักจังหวะโชว์ศักยภาพ
และมีพัฒนาการมากแค่ไหน
4 : เทคนิคการยืมแรงคนอื่น ในหลายๆครั้ง ความเก่งทำให้คุณต้องทำงานหนัก แต่ถ้าคุณ
หาจังหวะ ซ่อนมันไว้บ้างในบางครั้ง มันจะทำให้มีคนยื่นมือมาช่วยให้สำเร็จโดยง่าย
และก็ขึ้นอยู่ที่ความความสามารถ ในการสร้างพันธมิตรด้วย
5 : เรียนรู้ใจบุคคลนั้น คนฉลาดรู้จักโยนหินถามทางก่อนเสมอ เขาจะแสร้งลู่ตามลม
ประเมินดูสถานการณ์ต่างๆ ของอีกฝ่ายเพื่อปฏิบัติก่อนดำเนินแผนการณ์ใดๆ
6 : เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่อวดภูมิ คนฉลาดจะรับมือกับคนคุยโว ด้วยการอ่อนน้อมรับฟัง
จะไม่เกทับกันไปมานั่นเพราะว่ารู้หลักการว่า มีแต่คนโ ง่นั่นแหละ ที่จะเชื่อเรื่องอวดอ้างนั้นได้
7 : เมื่อรู้แต่รู้ไม่หมด เปรียบเทียบกับคนมองบนฟ้า ก็บอกว่าโลกนี้ มีแต่นกคนมองลงแม่น้ำ
ก็บอกว่าโลกมีเพียงปลา ที่จริงโลกนี้มีทั้งนก และปลาเมื่อเราเพิ่งมอง เพียงด้านเดียวก็อย่าคิดว่า
เป็นพหูสูตร ควรรู้จักเรียนรู้ กับผู้มีประสบการณ์ เพิ่มพูนความรู้แก่ตัวเอง
8 : พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง การนิ่งเงียบ อาจปิดโอกาสในการโชว์ศักยภาพกับบางคน
บางกรณีเท่านั้นแต่บางครั้ง การพูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่จะเกิดภัย เพราะงั้นเงียบไว้ดีกว่า
เช่น สนทนา โต้แย้งกับอันธพาล พูดคุยกับคนปิดกั้นทางความคิด หรือหว่านล้อมคนไม่มีใจ
9 : สถานการณ์เพื่อการเรียนรู้ และแม้คุณจะรู้ดีในบางเรื่องอยู่แล้ว เชื่อเหอะว่าการเรียนรู้
เพิ่ม จากสิ่งที่รู้นั้น มันจะช่วยให้คุณเซียนมากขึ้น อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วเลย