1 : อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่
ความเคยชิน ความสบาย มันน่ากลัวซึ่งหลายคนเลือกเดินทางนี้ เ พ ร า ะ รู้สึกว่าปลอดภัยแต่หารู้ไม่ว่า ในโลก
ของการทำงานยุคนี้ความปลอดภัยในหน้าที่การงานไม่มีจริงอีกต่อไปแล้วงานที่ทำ ๆ กันอยู่วันนี้ พรุ่งนี้อาจจะไม่มีแล้ว
ก็ได้เรื่องของความเคยชิน ความสบาย ถ้าเส พติดมันนานเกินไปมันจะทำให้เราหล่นลงไปอยู่ในกล่องใบเล็กกล่อง
ที่ทำให้เราไม่กล้ามอง ไม่กล้าคิดไม่กล้าเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ ทั้งที่สิ่งใหม่ ๆอาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดหรือกังวล
มองสิ่งใหม่ให้เป็นเรื่องท้าทาย และจัดการมันด้วยความสามารถของเราดีกว่า ถ้าเราคิดแบบนี้ได้เราก็จะไม่กังวล
บางทีอาจจะทำได้ดีกว่าที่คิดอีกด้วยผลลัพธ์ของการทำสิ่งใหม่บ่อย ๆจะช่วยให้เราได้เจอกับโอกาสใหม่ ๆ
เพื่อนกลุ่มใหม่ หรือได้งานใหม่ที่ดียิ่งขึ้น
2 : อย่าคิดว่า ตัวเองคือจุดศูนย์กลางของทุกเรื่อง
การกล่าวโทษคนอื่น ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิดหรือทำแต่สิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียที่ผู้อื่น
จะได้รับการกระทำแบบนี้ คือการเห็นแก่ตัวผลที่ตามมาก็คือ จะเป็นคนที่ ข า ดความสุขชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ
ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เ พราะไม่เคยยอมรับผิดเอาแต่โทษคนอื่น จึงไม่เกิดการเรียนรู้และการแก้ไขสุดท้ายชีวิต
ก็ต้องจมอยู่กับความทุกข์เ พ ร า ะหลอกตัวเองควรมองและให้ความสำคัญกับคนอื่นเท่ากับตัวเองจะทำให้การงาน
และการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นง่ายขึ้นที่สำคัญ เราเองจะมีความสุขและเป็นที่รักต่อคนรอบข้างมากขึ้นเช่นกัน
3 : อย่าหยุดที่จะเรียนรู้
คนที่หยุดเรียนรู้ เท่ากับว่า เขาได้ทำลายอนาคตและอาชีพของเขาไปเรียบร้อยแล้วยิ่งตอนนี้ ความรู้มีการอัปเดต
ตลอดเวลาถ้าเราจะก้าวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงหรืออย ากอยู่แนวหน้าในสายอาชีพเรายิ่งต้องไขว่คว้า
หาความรู้เหล่านั้นทันทีการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ก็ตามไม่มีใครแก่เกินเรียน
และไม่มีใครเด็กจนจะเรียนเรื่องย าก ๆ ไม่ได้ เรียนเถอะครับแต่เราก็ต้องรู้ว่า เรียนเรื่องอะไรเกี่ยวกับงานเราไหม
เราจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียนนั้นอย่างไรไม่มีใครมีชีวิตที่แย่ลงจากการเรียนรู้แต่คนที่เขาแย่ลง
เกิดจากการเรียนไปวัน ๆแต่ไม่รู้จะเอาไปใช้อย่างไรมากกว่า
4 : อย่าหั กโหมทำงานหนัก จนลืมดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง
บริษัทเขาคงไม่เสียใจหรือเสียดายจากการเสียชีวิตของเราอย่างแน่นอนอย่างมากเขาก็คงส่งพวงหรีด และเงิน
ค่าช่วยเหลือให้หรอกถ้าเราทำงานจนล้มป่วยหรือเสียชีวิตบริษัทก็จะหาคนใหม่มาแทนที่เราได้ในไม่ช้า
แต่การสูญเสียของเรา มันกระทบต่อคนในครอบครัวมากบางคนที่เป็นหัวเรือใหญ่ของครอบครัวการจากไปของเขา
กลับกลายเป็นการทิ้งภาระมากมายเอาไว้ให้กับครอบครัว เช่น หนี้สิน หรือการข า ดรายได้ดังนั้น จงอย่าคิดว่าบริษัท
จะตกที่นั่งลำบากถ้าไม่มีเราคนที่ลำบากคือคนในครอบครัวของเราต่างหากอย่าหั กโหมจนต้องล้มป่วย
ทำงานให้เต็มที่และดีที่สุด ก็เพียงพอแล้ว
5 : อย่ากลัว อย่าหนีปัญหา หรือหนีสิ่งที่ไม่ชอบ
โบราณเขาว่าเอาไว้ “ยิ่งหนี ยิ่งเกลียด ยิ่งเจอ”แน่นอนว่าการทำงาน ย่อมต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรค
ถือเป็นเรื่องปกติ คนที่หลีกเลี่ยงปัญหาหรืออุปสรรคในตอนนี้อาจจะต้องเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคที่ใหญ่ขึ้น
ซับซ้อนมากขึ้น และย า กขึ้นปัญหาและอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา มันก็คล้าย ๆกับเราเล่นเกม แต่เป็นเกมชีวิตที่เราต้องฝ่าฟัน
ผ่านด่านแต่ละด่านไปให้ได้ เมื่อผ่านปัญหาเล็ก ๆ ไปได้ด่านถัดไปเราจะมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นและจะสามารถต่อสู้
กับเรื่องที่ย ากขึ้นได้อย่างสบายดังนั้น อย่าเพิ่งหนีสิ่งที่เรากำลังเจออยู่อาจจะมีคนอีกมากมายที่เขาผ่านมาได้แล้ว
จงหาคนเหล่านั้น ไปเรียนรู้วิธีการและแนวทางของเขา ดูจะทำให้เราหาทางผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคของเราไปได้ง่ายขึ้น
6 : อย่ากลัวกับการเปลี่ยนแปลง
ในยุคนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งในแง่บวกและแง่ลบอย่างรวดเร็วมาก หลาย ๆบริษัทที่เคยใหญ่โต
และมั่นคงมาย าวนานกว่า 20-30 ปีกลับล้มลงไม่เป็นท่า หลายแห่งปิดตัวลงไปก็มีเยอะแต่ก็มีอีกหลายบริษัท
เช่นกัน ที่ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้ไวเช่น บางบริษัทเพิ่งจะตั้งไข่ได้ไม่กี่ปีก็สามารถเติบโตเคียงข้างบริษัทยักษ์ใหญ่
ที่มีอายุกว่า 40-50 ปีได้ พวกเราก็เหมือนบริษัท ถ้าเราเพิกเฉยเมินเฉยต่อการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ใส่ใจที่จะพัฒนาตนเอง
ในไม่ช้าเราก็จะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนเ พ ร า ะจำนวนพนักงานที่ถูกทดแทนโดยเครื่องจักร
และ AI มีจำนวนสูงขึ้นทุกปีและการปลดพนักงานออกมีแนวโน้มสูงขึ้นด้วยถ้าเรารอหรือไม่กล้าที่จะเปลี่ยน
ไม่พัฒนาตนเอง อีกไม่นานก็คงจะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่
7 : อย่ากังวลหรือใส่ใจ กับคำพูดของคนรอบข้าง มากจนเกินไป
ยุคที่คนส่วนมากให้ความสำคัญกับเปลือกมากกว่าคุณค่าที่แท้จริง จึงเลือกใช้ชีวิตเพื่อให้คนรอบข้างพอใจ
การทำแบบนี้จะทำให้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองและยังติดนิสัยสร้างภาพ หลอกลวงคนอื่น
ยิ่งทำยิ่งเป็นทุกข์ ยิ่งทำยิ่งสูญเสียตัวตนสุดท้ายไม่รู้ว่าใช้ชีวิตทุกวันนี้ เพื่อคนอื่น
หรือเพื่อตัวเองกันแน่ดังนั้น อย่าใส่ใจกับสายตาหรือคำพูดของคนอื่น มากจนเกินไป
8 : อย่าทำงานแค่พอผ่าน เ พราะผลงานที่ดี บ่งชี้ถึงคุณภาพของเรา
บางวันเราอาจจะเหนื่อย บางวันเราอาจจะเซ็งเจ้านายบางวันเราอาจจะอารมณ์ไม่ดีแต่ก็ไม่ควรเอาเรื่องเหล่านั้น
ไปลงกับผลงานของเราชิ้นงานแต่ละชิ้นที่ผ่านมือเรา ไม่ว่าจะเป็นงานง่ายงานเล็ก หรืองานใหญ่ เราล้วนต้องใส่ใจ
และให้ความสำคัญกับทุกงานทั้งสิ้น เ พ ร า ะทุกชิ้นงานที่ทำโดยเรา คนอื่นเขามองออกเขาสามารถรู้ได้ว่า
เราทำด้วยความตั้งใจและเต็มที่กับมันหรือเปล่า ภาพลักษณ์ภายนอกแค่หน้าตาหรือการแต่งกายสำคัญก็จริง
แต่ภาพลักษณ์จากผลงานที่เราทำนั้นสำคัญยิ่งกว่า
9 : อย่ากลัวที่จะผิดพลาด เ พราะทุกคนล้วนมีโอกาสพลาดกันได้ทั้งนั้น
ที่จริงแล้วความผิดพลาดคือสิ่งที่ดีเ พ ร า ะความผิดพลาดที่เราก่อขึ้น คือหลักฐานที่พิสูจน์ว่า
เราได้ลองลงมือทำแล้วและการสรุปว่ามันไม่เวิร์คด้วยมุมมองแบบนี้จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
และหาหนทางใหม่อีกครั้งผิดบ้าง ถูกบ้าง เดี๋ยวจะเจอทางที่ใช่เองดังนั้น จงเรียนรู้จากความผิดพลาดให้เยอะ
ทุกอย่างคือการลงทุน แม้แต่ความล้มเหลวก็ยังถือเป็นประสบการณ์ ที่จะคืนทุน
และทำกำไรมหาศาลให้กับเราในอนาคตได้อย่างแน่นอน