หากเราลองมองย้อนกลับไป ในวัยเรียนเห็นตัวเองเป็นอย่ างไรครับ ? บ้ างอาจเ ก เ ร ไม่ค่อยชอบเข้าเรียนหนีไปเล่นเกม บ้ าง
อาจตั้งใจเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทย าลัยที่ตัวเองหวังแต่เชื่อแน่ว่าเด็กตั้งใจเรียนนั่งอยู่หน้าห้องคงเป็นส่วนน้อยแน่นอน
ส่วนเด็กหลังห้องแบบเราๆ แล้ว เรื่องเรียงถือเป็นปัจจัยรองอย่ างช่วยไม่ได้ซึ่งมีคำเฉพาะสำหรับ ใช้เรียกนักเรียนกลุ่มนี้ว่า
“นักเรียนเกรด C” นี่เองเป็นเหตุผลที่ในวันนี้ เราได้หยิบ 8 เหตุผลว่าทำไมเด็กเรียนไม่เก่งมัก ประสบความสำเร็จหลังเรียนจบ
มาฝากกันเราไม่ได้หมายความว่าการตั้งใจเรียนเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ การตั้งใจเรียนถือ เป็นสิ่งดีมาก แต่เราเพียงแค่อย ากหยิบ
ยกอีกแง่มุมหนึ่งของคำถามที่ว่า ทำไมเด็กเรียนไม่เก่ง ถึงมักจะมีชีวิตที่ค่อนข้างดี ขัดจากคำดูถูก ที่อาจารย์ได้พร่ำบอกเขา
มาให้ดูก็เท่านั้นเองครับ ตามมาดูกันเลยดีกว่า
1 : พวกเขารู้วิธีจะยกระดับความสามารถของผู้อื่น
ในขณะที่เหล่าบรรดา เด็กเรียนกำลังตั้งใจเรียน และเคร่งเครี ย ด กับการสอบเหล่านักเรียน C ใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการสร้าง
”กองทัพ” ของพวกเขาเองโดยเขาจะใช้เวลา ในช่วงเวลานี้ในการสร้างคอนเน็คชั่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เ พ ร า ะพวก
เขารู้ว่าชีวิตหลังการเรียนจบเจ้าตัวความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอื่นนี้แหละที่จะเป็นใบเบิกทางให้เขาสามารถมีลู่ทางต่างๆ ได้
2 : พวกเขาไม่ยอมเป็นผู้ติดตามใคร
พวกเขามักไม่ค่อย ชอบเดินตามเส้นทางของใคร โดยเด็กเหล่านี้ไม่เชื่อว่าการที่ชีวิตของพวกเขาต้องไปคอยเดินตามบุคคล
ที่คนอื่นต่างคิดว่าเป็นแบบแผน จะเป็นหนทางที่ถูกต้อง อีกทั้งพวกเขายังไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าพวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่ าง
ไร เ พ ร า ะนักเรียน C จะมีวิธีการดำเนินชีวิตในแบบของพวกเขาเอง
3 : พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการศึกษา
นักเรียน C จะไม่ค่อยเชื่อมั่น ในระบบการศึกษาที่ตีกรอบอยู่ภายในห้องเรียน พวกเขาเชื่อในการเรียนรู้ที่อยู่ภายนอกมากกว่า
เ พ ร า ะรู้ว่าการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้น ได้ในทุกสถานการณ์อีกทั้งยังไม่กลัวที่จะท้าทายตัวเองแม้การท้าทายไปสู่หนทางนั้น
อาจอึดอัด จากการค้านสายตาของบุคคลอื่น แต่ นักเรียน C รู้ว่ามันก็อึดอัดน้อยกว่าที่จะต้องเดินไปในหนทางที่ผิดพลาด
และไม่ใช่ตัวเอง
4 : พวกเขามักมีเรื่องใหญ่กว่าที่ต้องกังวล
น่าแปลกที่มีผลการยืนยัน ที่น่าสนใจว่า หากเราตั้งใจเรียนมากเกินไป จะทำให้เราไม่มีเวลาคิดถึงอนาคตอย่ างจริงจังนี่เอง
เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้นักเรียน C มักประสบความสำเร็จ ในชีวิตหลังการเรียนจบเ พ ร า ะเด็กเหล่านี้คอยเฝ้ารอและคิด
มาตลอดถึงชีวิต หลังการเรียนจบ ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตที่แท้จริง
5 : พวกเขามักไม่พย า ย ามประจบประแจงผู้บังคับบั ญ ชา
นักเรียน C มักไม่เคยมีพฤติก รรม ประจบประแจงหรือคอยเอาใจอาจารย์ของพวกเขา พวกเขาจะเคารพรักครูของพวกเขาแต่
จะไม่ได้ต้องทำตามหรือเชื่อในทุกสิ่งที่ครูของพวกเขาพูดเ พ ร า ะเด็กเหล่านี้ไม่เชื่อว่าการที่ทำทุกสิ่งตามที่ครูสั่งจะเป็นหน
ทางเดียวที่ จะนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินชีวิตในอนาคต โดยพวกเขามักมีความคิดว่าความก้าวหน้าในอนาคต
คือสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องสร้างขึ้นเอง
6 : พวกเขามีคำจำกัดความของคำว่า ”ความสำเร็จ” เป็นของตัวเอง
นักเรียน C มักรู้ว่าความสำเร็จ ของพวกเขาไม่ได้มาจากการที่ได้เกรดเอในห้องเรียนเ พ ร า ะเด็กเหล่านี้รู้ว่าความสำเร็จมักเกิด
มาจากการสั่งสม ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกมากกว่า และพวกเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่ างไร เ พ ร า ะพวกเขามีหน
ทาง ที่เขาได้เลือกไว้ในใจอยู่แล้ว
7 : พวกเขามักเป็นคนช่างฝัน
ในบรรย า กาศห้องเรียน ขณะที่เหล่าเด็กเรียน ทั้งหลายตั้งใจเรียนอยู่ นักเรียน C มักมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูท้องฟ้า
และเมฆ และจินตนาการสิ่งต่างๆไปเรื่อยเปื่อย เด็กเหล่านี้มักเป็นเด็กที่ช่างฝันชอบจินตนาการนอกกรอบ พวกเขามักจะ
จินตนาการ ไปถึงการทำงานในชีวิตจริง ดังนั้นเมื่อพวกเขาเรียนแล้วและมีอิสระ ทำให้พวกเขาทุ่มเททุกอย่ างเพื่อ
สร้างความฝันที่เขามักวาดไว้ให้เป็นจริงนั่นเอง
8 : พวกเขามักจะเรียนรู้โดยตรงมากกว่า
นักเรียน C มีความคิดว่า การที่หากจะต้องเรียนรู้ อะไรสักเรื่องหนึ่งการที่พาตัวเองไปเรียนรู้กับมัน “โดยตรง”ถือเป็นสิ่งสำคัญ
นี่เองเป็นเหตุผลว่าเมื่อเด็กเหล่านี้สนใจอะไรพวกเขาก็จะทุ่มเทตัวเขาต่อการเรียนรู้สิ่งนั้นสุดตัวอีกทั้งพวกเขามักกำหนด
ทิศทาง การเรียนรู้ในแบบของพวกเขาเอง โดยไม่ต้องการคำตอบสูตรสำเร็จจากผู้อื่นแต่พวกเขาจะมีวิธีการเรียนรู้ใน
แบบของตัวเอง
อ่ า น แ ล้ ว เป็นอย่ างไร กันบ้ างครับ มีใครเป็น “นักเรียน C” กันบ้ างรึเปล่าครับผม เชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่จบการศึกษามา
แล้วตอนนี้และกำลังพย า ย ามสุดวิถีทางในการไล่ล่าความฝันให้เป็นจริงอยู่เราเชื่อเหลือเกินว่าความทุ่มเทถือเป็นสิ่งสำคัญ
ที่สุดที่จะช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้ ดังนั้นอย่ าท้อครับ จงสู้ไปเพื่อความฝันเ พ ร า ะเมื่อไหร่ที่เราหยุดแล้วล้มเหลวนั่นคือ
วิธีเดียวที่จะยอมให้คำพูดของเหล่าครูบาอาจารย์ที่เคยดูถูกไว้เป็นจริงแบบนั้นเราจะยอมเหรอครับ