ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนคงจะหวั่นกับ ค ว า ม เ สี่ ย ง ที่จะตกงาน หรือถูกเลิกจ้างเป็นอย่ างมาก หรือแม้แต่
บางคนที่ตัดสินใจลาออกจากเองเ พ ร า ะรู้สึกไม่มีความสุขกับการทำงานแต่ก็ต้องมานั่งกลุ้มใจทีหลังกับค่าใช้จ่ายและ
ภาระหนี้สินที่แบกไว้ วันนี้เราจะมาบอกสิ่งที่ต้องทำ หลังจากออกจากงาน หรือถูกเลิกจ้าง ว่าควรทำทำอย่ างไรต่อไป
1 : เคลียร์เงินกอง ทุ น สำรองเลี้ยงชีพ
สำหรับเรื่องเงินกอง ทุ น สำรองเลี้ยงชีพ หากคุณเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คุณก็จะได้ประโยชน์จากเงินสะสม
โดยสามารถรับเป็นเงินก้อนได้เวลาออกจากงานก็จะมีเงินก้อนไว้สำรองเลี้ยงชีพ แต่หากคุณยังไม่ได้จำเป็นที่จะใช้
เงินก้อนนี้ ก็อาจจะคงเงินไว้ในระบบก่อน
2 : ตรวจสอบสภาพการเงินของคุณ
เมื่ออยู่ในสถานะว่างงาน การตรวจสอบสภาพการเงินของคุณ ในปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญคุณต้องคำนวณถึงรายจ่ายและ
ภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายทุกเดือนและมองหารายได้ที่ยังเหลืออยู่ว่าเพียงพอหรือไม่อย่ างไรเพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวและ
รับมือกับสถานการณ์การเงินของคุณได้ถูกต้องรายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็นก็ให้เอาออกไปเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้สมดุล
กับการเงินปัจจุบัน
3 : ติดต่อประกันสังคม
หากคุณว่างงาน สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือการจัดการเรื่องประกันสังคม ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะว่างงาน จากการลาออกเองหรือ
ถูกไล่ออก ต้องรีบไปติดต่อสำนักงานประกันสังคมเพื่อ รั ก ษ า สิ ท ธิ และประโยชน์ที่เราพึงจะได้รับเพื่อรอโอ นย้ ายไป
ยังกองทุนของบริษัทใหม่ในอนาคตแต่หากคุณออกจากกองทุนโดยที่ยังไม่เกษียณอายุคุณอาจจะเสียผลประโยชน์จาก
เงินสมทบที่จะได้รับไม่เต็มจำนวนดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆ อย่ างละเอียด เพื่อไม่ให้เสียเปรียบผลประโยชน์ที่คุณ
ควรจะได้รับ
4 : เปลี่ยนพฤติกรร มการใช้เงิน
หลังจากตรวจสอบ การเงินของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะทราบถึง ทิศทางการเงินของคุณ ระหว่างรายได้กับรายจ่ายแน่นอน
ว่ารายได้ของคุณลดลงดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรร ม การใช้เงินอย่ างเร่งด่วนต้องลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย
ออกไปให้หมด และจ่ายให้น้อยลงสำหรับ สิ่งที่จำเป็นในส่วนของค่าใช้จ่าย หรือภาระหนี้สินที่คุณต้องจ่ายนั้น ให้เลือกลด
เป็นอันดับสุดท้ายเ พ ร า ะมันจะมีผลกระทบต่อเครดิตและความน่าเชื่อถือของคุณ เป็นการเรียงลำดับความสำคัญใน
การเลือกที่จะใช้จ่ายนั่นเอง
5 : มองหางานใหม่
หลายคนเมื่อว่างงาน ก็มักจะรีบเร่งหางานใหม่ทันที โดยที่ไม่ได้มองถึง ความชอบของงานจริงๆ กลายเป็นว่าทำได้ไม่นาน
ก็ต้องลาออกมาหางานใหม่อีกเหมือนเดิมแน่นอนว่าการหางานที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข กับเพื่อนร่วมงานและสภาพแวด
ล้อมที่ทำงานดีๆ รวมถึงผลตอบแทนที่น่าพอใจนั้น ห า ย า ก ยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรการจะทำงานและอยู่กับมัน
ให้ได้นานๆก็ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ เนื้ อง หาของงาน รายได้ และผู้ร่วมงาน หากใครมีความพอใจต่อสิ่งเหล่านี้ได้
2 ใน 3 อย่ าง ก็จะสามารถทำงานนั้นได้อย่ าง ย า ว น า น และไม่ต้องเปลี่ยนงานบ่อยๆ
ดังนั้นเราควรที่จะมองหาสิ่งที่ตรงกับความต้องการ ของตัวเองและสามารถอยู่กับมันได้นานๆ โดยที่ไม่ต้องกลับมา
ตกอยู่ในสถานะว่างงานอีก
6 : เก็บ รั ก ษ า เงินก้อน
หากว่างงาน และได้เงินก้อน อย่ าเพิ่งรีบร้อนใช้เงินเงินก้อนนี้ หรือแม้แต่ จะนำไปปลดหนี้ เพื่อหวังลดภาระหนี้สินวิธีที่ดี
ที่สุดที่จะจัดการกับเงินก้อนนี้อย่ างชาญฉลาด คือการนำเงินก้อนนี้มาแบ่งสรรปันส่วน จัดสรรเงินเพื่อให้เพียงพอต่อการ
ดำรงชีพและการจ่ายคืนหนี้ได้ตามกำหนด ไว้ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่าบัต รเ ค ร ดิ ต
และอื่นๆ คุณควรที่จะกันเงินสำรองนี้ รวมถึงเงินส่วนอื่นๆ ที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไปอีก 6 เดือน
เป็นอย่ างน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถอยู่ได้อย่ างปกติ จนกว่าจะหางานใหม่ทำได้
7 : ทำงานฟรีแลนซ์
หลายคนมีความฝันที่ อ ย า ก จะทำงานอิสระ ไม่ต้องไปเป็นลูกน้องรับคำสั่งจากใคร หรือคอยรองรับอารมณ์ใคร แต่ก็ใช่
ว่าทุกคนจะเป็นได้ อย่ างที่หวังด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคง และความแน่นอนของรายได้ จึงทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะ
ออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการดังนั้นเวลาว่างงาน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้เราได้ลองทำในสิ่งที่ อ ย า ก
จะทำ และยังเป็นการหารายได้ให้ตัวเองโดยอาจจะเริ่มจากรับงานฟรีแลนซ์เล็กๆ ที่สามารถทำคนเดียวได้ และเมื่อพบลู่
ทางจะได้สามารถนำมาเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้หลักให้กับเรา โดยที่ไม่ต้องกลับไปเป็นพนังงานเงินเดือนอีกต่อไป
8 : พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าเรากำลังตกอยู่ในสถานะคนว่างงาน ก็ใช่ว่าเราจะต้องปล่อยเวลาทิ้งไปให้เปล่าประโยชน์ หรือตระเวนหาแต่งานใหม่
จนลืมไปว่าสิ่งสำคัญอีกอย่ างในการที่จะเริ่มต้นการทำงานใหม่ คือ ศักยภาพที่สูงขึ้นของเราเองเราควรมีการพัฒนาตัวเอง
อยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของภาษาต่างประเทศหรือทักษะการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็น
สำหรับการทำงานในทุกสายงานปัจจุบันไปแล้วนอกจากนี้ การพัฒนาศักยภาพตัวเองในด้านวิชาชีพตามความต้องการ
ในสายงานที่จะทำ ก็จำเป็นและมีผลต่อการพิจารณารับเราเข้าทำงานเป็นอย่ างมากเราจึงไม่ควรปล่อยช่วงเวลาไป
โดยเปล่าประโยชน์ ใช้เวลาที่ว่างงานนี้แหละ มองหาโอกาสพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมกับการทำงานในอนาคต